“ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ
9 ปีบนเส้นทางลูกสักหลาด
กับบทพิสูจน์ความสามารถที่ยังไม่สิ้นสุด
.
นอกจากจะทำผลงานผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ เทนนิสอาชีพ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน เริ่มจากเข้ารอบรองชนะเลิศ เทนนิสอาชีพหญิง ไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต 2018 รายการ “ไอทีเอฟ วีเมนส์ เซอร์กิต”, เข้ารอบชิงชนะเลิศการแข่งขันเทนนิสอาชีพหญิง ไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต 2018 สัปดาห์ที่ 2 รายการ “ไอทีเอฟ วีเมนส์ เซอร์กิต” และเข้ารอบรองชนะเลิศ เทนนิสอาชีพหญิงไอทีเอฟโปรเซอร์กิต 2018 สัปดาห์ที่ 3 รายการ “ไอทีเอฟ วีเมนส์ เอเชีย/โอเชียเนีย” แล้ว ล่าสุด น้องออมสินยังสามารถคว้าได้อีก 1 เหรียญเงิน จากประเภททีมหญิง และ 2 เหรียญทองแดง จากหญิงเดี่ยวและหญิงคู่ ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งแรกในชีวิต กับกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 46 ที่จังหวัดเชียงราย หรือเจียงฮายเกมส์ อีกด้วย ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวสำหรับนักหวดดาวรุ่งวัยเพียง 16 ปีเช่นเธอ
“เจียงฮายเกมส์คือกีฬาแห่งชาติครั้งแรกของหนูค่ะ การคว้า 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดงให้กับทีมเทนนิสจังหวัดสุพรรณบุรี ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของหนู เพราะรายการนี้มีนักเทนนิสรุ่นพี่ที่เก่งๆ ที่เป็นแชมป์ระดับประเทศมาลงแข่งให้กับหลายจังหวัด ก็คิดว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าจดจำ และมีจุดที่เราต้องเอาไปแก้ไขถ้าอยากเก่งกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ที่ยังไม่นิ่งพอเวลาตีเสีย หนูก็สัญญากับตัวเองว่าจะต้องนิ่งกว่าเดิม เพื่อบททดสอบที่รออยู่ในอนาคตค่ะ ส่วนก่อนหน้านี้ที่เราทำผลงานได้ดีในการแข่งขันเทนนิสอาอาชีพ 3 สัปดาห์ติดต่อกันก็ดีใจมากค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ แน่นอนว่าทุกการแข่งขันคือประสบการณ์ที่ดีและหนูจะพัฒนาต่อไป”
สำหรับน้องออมสิน เริ่มเล่นกีฬาเทนนิสตั้งแต่อายุ 7 ขวบ หลังตามพี่ชาย ธนเพชร ฉันทะ หรือ โอเว่น ไปเล่นที่คอร์ตภายในค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นที่ทำงานของคุณพ่อ จ่าสิบเอกธนพล ฉันทะ เป็นประจำ ประกอบกับที่คุณพ่อชื่นชอบกีฬาเทนนิสเป็นพิเศษจึงสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทำให้เด็กน้อยวัย 7 ขวบที่ตั้งใจแค่ไปตีเทนนิสเล่นๆ กับพี่ชาย ซึมซับและหลงรักกีฬาชนิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ “ป้าอ๋อย” ลัดดา พวงจันทร์ เป็นโค้ชคนแรกที่ถ่ายทอดวิชาให้
“ตอนแรกตามพี่ชายไปเล่นที่คอร์ตในที่ทำงานคุณพ่อค่ะ ก็เล่นตามประสาเด็กๆ แต่พอเล่นทุกวันๆ มันก็ติดใจโดยไม่รู้ตัว รู้สึกว่ามันสนุก ตื่นเต้น แล้วก็ท้าทาย อีกอย่างคุณพ่อก็ชอบด้วย ก็เลยได้มีโอกาสฝึกอย่างจริงจัง ตอนนั้นฝึกกับป้าอ๋อย ที่ค่ายธนะรัชต์ค่ะ ต้องถือว่าป้าอ๋อยคือครูเทนนิสและโค้ชคนแรกของหนูเลย ซึ่งตอนนี้ป้าอ๋อยก็ยังสอนเด็กๆ อยู่ที่ค่ายธนะรัชต์ค่ะ ช่วงนั้นฝึกอยู่ 1 ปีก็ลงแข่งขันรายการเพื่อพัฒนาฝีมือ ครั้งแรกก็คว้าเหรียญทองแดงได้เลยค่ะ มันทำให้หนูยิ่งฮึกเหิม อยากแข่งอีก อยากได้เหรียญอีก ทีนี้ด้วยการฝึกซ้อมที่หนักมากก็มีบ้างที่เคยท้อ เคยงอแงจนอยากเลิกเล่น แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวก็ทำให้หนูมีพลังฮึดสู้และตั้งใจซ้อมมากกว่าเดิม จนคว้ารางวัลมาเรื่อยๆ และสามารถติดทีมชาติได้สำเร็จตอนอายุ 14 ค่ะ ก็ดีใจมาก ครอบครัวก็ดีใจไม่แพ้กัน”
น้อมออมสินใช้เวลา 7 ปีในการเข้าสู่แคมป์ทีมชาติไทย โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีโอกาสลงรับใช้ทีมชาติ 4 รายการ ประกอบด้วยศึกไอทีเอฟ เวิลด์ จูเนียร์ เทนนิส ไฟนอลส์ 2016 ที่สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งทีมชาติไทยได้อัน 12 ของโลก, การแข่งขันกีฬาอาเซียนสคูลเกมส์ 2017 ที่ประเทศสิงคโปร์ น้องออมสินคว้าเหรียญเงิน, การแข่งขันกีฬาเอเชีย สคูลเกมส์ 2017 ที่ประเทศอินโดนีเชีย คว้าเหรียญเงิน และเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี “จูเนียร์ เฟดคัพ 2018” รอบคัดเลือก โซนเอเซีย/โอเซเนีย ที่เมืองกูชิง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งทีมชาติไทยได้อันดับที่ 5
นอกจากนี้ยังมีผลงานคว้า 2 เหรียญทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่จังหวัดชุมพร เมื่อปี 2560, 3 เหรียญทองจากกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่จังหวัดน่าน เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ พร้อมรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมกีฬาเยาวชนแห่งชาติ 2 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2560 ยังสามารถคว้าแชมป์รายการ ไอทีเอฟ จูเนียร์ เกรด 4 อีกทั้ง สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือไอทีเอฟ ยังได้มอบทุนจาก กองทุนเพื่อการพัฒนาสู่แกรนด์สแลม (Grand Slam Development Fund) ให้แก่น้องออมสิน และนักเทนนิสเยาวชนหญิงไทยอีกคนคือ “แอนนา” ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันและการฝึกซ้อมเทนนิสรายการเยาวชน “ไอทีเอฟ จูเนียร์” จำนวน 3 รายการ ใน 3 เมืองของประเทศอินเดียเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน
โดยจนถึงปัจจุบัน บนเส้นทางลูกสักหลาด 9 ปีเต็ม น้องออมสินก้าวขึ้นมาอยู่อยู่อันดับ 786 ของโลก ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของเธอก็คือการทำผลงานที่ดีในทีมชาติ และได้ลงแข่งขันรายการแกรนด์สแลม รวมทั้งก้าวขึ้นไปติดท็อป 100 ของโลกภายในปี 2563
“ล่าสุดตอนนี้หนูขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 786 ของโลกค่ะ กีฬาแห่งชาติคือรายการสุดท้ายของปีนี้ ส่วนปีหน้าก็ตั้งเป้าว่าช่วงกลางปีแร้งกิ้งน่าจะขยับไปติดท็อป 500 ได้ และที่ตั้งใจมากๆเลยก็คือ อีก 2 ปีข้างหน้าอยากทำอันดับให้ติดท็อป 100 ให้ได้ค่ะ ส่วนทีมชาติก็หวังว่าอยากจะได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์เหมือนกับพี่ๆ ในทีมชาติที่เคยทำได้ค่ะ คือหนูมองว่าเส้นทางสายเทนนิสของหนูมันยังไปได้อีก มันไม่มีที่สิ้นสุดถ้าเรายังรัก ยังศรัทธา และยังมีความตั้งใจกับมัน มันถือเป็นบททดสอบความสามารถของหนู และหนูจะทำมันให้ได้เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย เพื่อตัวหนูเอง และเพื่อคุณพ่อคุณแม่ที่สนับสนุนหนูอย่างสุดกำลังมาตลอด”
นอกจากครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้น้องออมสินตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่และอยากเดินตามรอยในการเล่นเทนนิสให้ประสบความสำเร็จก็คือ “ลัก” ลักษิกา คำขำ นักเทนนิสทีมชาติไทย ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการไปเล่นในรอบเมนดรอว์ศึกแกรนด์สแลมมาแล้วถึง 3 รายการคือ ออสเตรเลียน โอเพ่น, เฟรนช์ โอเพ่น และวิมเบิลดัน โดยน้องออมสินชื่นชอบลักษิกาทั้งสไตล์การเล่น การวางตัว และความตั้งใจในการแข่งทั้งในทีมชาติและรายการอาชีพ ส่วนนักเทนนิสต่างชาติน้องออมสินชื่นชอบ คริสติน่า มลาเดโนวิช นักหวดสาวจากฝรั่งเศสที่เล่นได้ดีทั้งเดี่ยวและคู่
“ถ้าเป็นนักเทนนิสต่างชาติหนูชอบ คริสติน่า มลาเดโนวิช ของฝรั่งเศส คือเขาไม่ได้เป็นนักเทนนิสระดับซูเปอร์สตาร์ที่คนทั่วโลกต้องชื่นชอบเป็นส่วนใหญ่ แต่หนูชอบที่เขาเล่นได้ดีทั้งเดี่ยวและคู่ เพราะน้อยคนจะตีได้ดีทั้งสองประเภท ก็เลยชอบคนนี้และอยากจะเป็นเหมือนเขาบ้าง ส่วนถ้าเป็นนักเทนนิสไทยต้องคนนี้เลยค่ะ พี่ลัก ลักษิกา คำขำ เพราะพี่เขาเล่นเก่ง แล้วก็ตีได้ทั้งสองมือเหมือนหนู ที่สำคัญพี่ลักทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยทั้งการเล่นทีมชาติ และการเล่นอาชีพ เวลาพี่ลักลงแข่งขันในแกรนด์สแลม พี่เขาดูเท่มาก หนูเคยมีโอกาสเจอพี่ลักหลายครั้งแต่ไม่เคยบอกพี่เขาสักทีว่าพี่ลักเป็นไอดอลของหนูแค่เคยคุยบ้างเวลาเจอที่คอร์ต หนูก็เกร็งๆ นิดหน่อยค่ะ หนูเชื่อว่าพี่ลักต้องไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะ หนูจะคอยติดตามผลงานและจะใช้แรงบันดาลใจตรงนี้สู้ต่อไปเพื่อทำตามฝันให้ได้ค่ะ”
ปัจจุบันน้องออมสินศึกษาอยู่ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งทางต้นสังกัดอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ในการเล่นกีฬา โดยเจ้าตัวบอกว่าโชคดีที่ทุกคนช่วยสนับสนุนในหลายๆ ด้าน ทั้งสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ, ทางโรงเรียน และครอบครัว
“กว่าจะมาถึงวันนี้หนูต้องฝ่าฟันมาหลายอย่าง โชคดีที่คุณพ่อคุณแม่และครอบครัวคอยซัพพอร์ตมาตั้งแต่ต้นก็ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายมากๆ กำลังใจที่ดีที่สุดก็คือครอบครัวค่ะ นอกจากนี้ก็ต้องขอบคุณทางโรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรีด้วยที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลาเรียนให้หนู ทำให้หนูได้มีเวลาฝึกซ้อมและแข่งขันได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ที่ให้โอกาสหนูได้ติดทีมชาติ ทำให้หนูได้มีประสบการณ์การเล่นเทนนิสที่ดีมากๆ ทุกๆ คนคือส่วนเติมเต็มให้หนูได้สู้กับบททดสอบใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกๆ วัน และหนูเชื่อว่าทุกคนจะรอดูความสำเร็จของหนูเช่นกัน”
ล่าสุดแม้ว่าทัวร์นาเมนต์แข่งขันในปีนี้ของน้องออมสินจะจบแล้ว แต่เจ้าตัวยังคงฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวันทั้งทักษะการตี และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการลงแข่งขันในปีหน้า เพื่อเป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อสู้กับบททดสอบที่รออยู่อีกมายมาย ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า ประเทศไทยอาจจะมีนักเทนนิสหญิงก้าวขึ้นไปติดท็อป 100 ของโลกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็เป็นได้
:::::
บรรยายภาพ
1-2) น้องออมสิน อัญชิสา คว้า 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดงให้กับทีมเทนนิสจังหวัดสุพรรณบุรีในเจียงฮายเกมส์
3-7) น้องออมสินทำผลงานดีต่อเนื่อง ในการแข่งเทนนิสอาชีพหญิง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยสามารถคว้ารองแชมป์ 1 รายการ และเข้ารอบตัดเชือก 2 รายการ
8-10) ไอทีเอฟพิจารณามอบทุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาสู่แกรนด์สแลมให้แก่น้องออมสิน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันและการฝึกซ้อมเทนนิสเยาวชน “ไอทีเอฟ จูเนียร์ส”ที่ประเทศอินเดียเมื่อปี 2560
11) เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันศึกไอทีเอฟ เวิลด์ จูเนียร์ เทนนิส ไฟนอลส์ 2016 ที่สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งทีมชาติไทยได้อัน 12 ของโลก
12) เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขัน “จูเนียร์ เฟดคัพ 2018” รอบคัดเลือก โซนเอเซีย/โอเซเนีย ที่เมืองกูชิง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งทีมชาติไทยได้อันดับที่ 5
13) เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชีย สคูลเกมส์ 2017 ที่ประเทศอินโดนีเชีย คว้าเหรียญเงิน
14) ขณะอายุ 14 ปี ลงแข่งขันรายการเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
15-16) จ่าสิบเอก ธนพล คุณพ่อ, คุณแม่ นพพร และ ธนเพชร ฉันทะ พี่ชาย กำลังใจที่สำคัญที่สุดของน้องออมสิน
17) น้องออมสินเมื่อครั้งคว้าแชมป์พัฒนาฝีมือภาคใต้รุ่นอายุ 9 ปี
18) ป้าอ๋อย” ลัดดา พวงจันทร์ โค้ชคนแรกของน้องออมสิน สมัยฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์
*สามารถเข้าชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ltat.org/photos/