เดวิสคัพไทยเปิดสวย นำฟิลิปปินส์ 2-0
“กัปตันปิ๊ก”หวังแฝดคว้าชัยพาทีมชนะขาด
ทีมเทนนิสไทยออกสตาร์ทได้สวยงาม ประเดิมวันแรก นำ “ฟิลิปปินส์” 2-0 คู่ หลังจากที่ พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ เดี่ยวมือ 2 เฉือนชนะ เจสัน ปาตรอมบอน มือ 1 ฟิลิปปินส์ ได้ 2-1 เซต ก่อนที่ วิชยา ตรงเจริญชัยกุล มือ 1 ไทย จะมาเก็บชัยชนะเหนือ อัลแบร์โต้ ลิม ได้ 2 เซตรวด ขณะที่ “กัปตันปิ๊ก” ร.ต.อ.ดนัย อุดมโชค กัปตันทีมเดวิสคัพไทย พอใจฝีมือลูกทีมทำได้ตามเป้า หวังคู่แฝด “ต้น-ต้อง” สนฉัตร-สรรค์ชัย รติวัฒน์ จะคว้าชัยช่วยให้ทีมไทยชนะขาด 3-0
การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย รายการ “เดวิสคัพ” ปี 2019 กลุ่ม 2 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ได้มีพิธีเปิดการแข่งขันขึ้นที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 5 เมษายน โดยมี เวย์น แมคเคเวน ผู้ตัดสินชี้ขาดจากสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) ชาวออสเตรเลีย, หวัง ซิน เหลียง ผู้ตัดสินไอทีเอฟ ชาวจีน และ เยฟเจนิย่า เดดูเชว่า ผู้ตัดสินไอทีเอฟ ชาวอุซเบกิสถาน ร่วมในพิธี
สำหรับสถิติการพบกันระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมฟิลิปปินส์ ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 8 ครั้ง ผลัดกันแพ้-ชนะทีมละ 4 ครั้ง แต่ใน 2 ครั้งล่าสุดที่เจอกัน ทีมนักหวดไทยสามารถคว้าชัยรวด 2 นัด โดยในปี 2017 ทีมไทยชนะในบ้านด้วยสกอร์ 5-0 คู่ และปี 2018 ทีมไทยบุกเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 4-1 คู่
ประเภทเดี่ยวสลับมือ คู่แรก “เน็ต” พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ นักหวดหนุ่มดาวรุ่งวัย 19 ปี และมือ 2 ของไทย พบ เจสัน ปาตรอมบอน นักหวดวัย 26 ปี ซึ่งเป็นมือ 1 ฟิลิปปินส์ และเป็นมือ 1,306 ของโลก โดยคู่นี้ยังไม่เคยพบกันมาก่อน และในเซตแรก พลภูมิออกสตาร์ทได้สวยงาม นำห่าง 3-0 ปาตรอมบอน ไล่มาได้ 2-3 แต่นักหวดหนุ่มไทยอาศัยลูกเสิร์ฟที่แน่นอน และหวดท้ายคอร์ตได้หนักหน่วง เอาชนะไป 6-3
เซตสอง พลภูมิ ตีเสียเอง จนถูกเบรกตาม 0-3 พยายามไล่มา 2-4 ทว่า ปาตรอมบอน ยังหวดได้แน่นอนกว่าและเอาชนะไป 6-2 ทำให้เสมอ 1-1 เซต และในเซตสุดท้าย ซึ่งเล่นกันได้อย่างสูสี เสมอ 4-4 พลภูมิเบรกเกมที่ 9 ขึ้นนำ 5-4 และออกมาเสิร์ฟปิดเซต ชนะไป 6-4 สรุป พลภูมิ ชนะ 2-1 เซต 6-3, 2-6, 6-4 ใช้เวลาแข่งขันทั้งหมด 2 ชั่วโมง 4 นาที เก็บแต้มแรกให้ทีมไทยขึ้นนำก่อน 1-0 คู่
คู่สอง “จูเนียร์” วิชยา ตรงเจริญชัยกุล นักหวดหนุ่มมือ 1 ไทย วัย 23 ปี และมือ 488 ของโลก พบกับ อัลแบร์โต้ ลิม ดาวรุ่งวัย 19 ปี และมือ 2 ฟิลิปปินส์ โดยคู่นี้เคยพบกัน 1 ครั้ง ซึ่ง วิชยา เอาชนะ 3-0 เซต 7-6(2), 6-4, 6-3 ในศึกเดวิสคัพ ปี 2017 ที่ประเทศไทย
เซตแรก วิชยาเบรกเกมเสิร์ฟของ อัลแบร์โต้ ลิม ได้ในเกมที่ 3 นำ 2-1 จากนั้นวิชยาอาศัยลูกเสิร์ฟที่หนักหน่วง และเล่นในฟอร์มของตัวเอง เอาชนะไป 6-4 จากนั้นเซตสอง หนุ่มไทยเปิดฉากเบรกเสิร์ฟคู่แข่งได้ทันทีในเกมแรก และรักษาเสิร์ฟขึ้นนำ 2-0 ขณะที่หนุ่มฟิลิปปินส์ฮึดกลับมาเบรกได้ในเกมที่ 6 ไล่ตีเสมอ 3-3 ก่อนที่ทั้งคู่จะดวลกันไปเสมอ 6-6 ต้องเล่นไทเบรกตัดสิน และเป็น วิชยา ที่ชนะไทเบรก 7-4 ทำให้คว้าชัยในเซตสองด้วยสกอร์ 7-6 ไทเบรก 7-4 สรุป วิชยา ชนะ 2-0 เซต 6-4, 7-6(4) โดย วิชยาเสิร์ฟเอซไปได้ถึง 11 ครั้ง และใช้เวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 20 นาที
จากผลดังกล่าว ทำให้ทีมไทยประเดิมวันแรก ขึ้นนำทีมฟิลิปปินส์ 2-0 คู่ ซึ่งการแข่งขันวันที่สองในวันที่ 6 เมษายน เริ่มด้วยประเภทคู่ 1 คู่ และประเภทเดี่ยวชนมือ จำนวน 2 คู่ และทีมไทยต้องการชนะอีกเพียงคู่เดียวเท่านั้น ก็จะคว้าชัยชนะเหนือทีมฟิลิปปินส์ทันที
หลังการแข่งขัน พลภูมิ กล่าวว่า เกมนี้ถือว่าตีได้ค่อนข้างดี แต่มีบางช่วงที่สมาธิหลุด และความนิ่งในเกมยังไม่คงที่เท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วก็พอใจ ซึ่งในช่วงเซตสอง ยอมรับว่าตื่นเต้นและกดดันตัวเองจนตีผิดพลาด แต่ ร.ต.อ.ดนัย อุดมโชค กัปตันทีม ได้แก้เกมให้จนกลับมาเล่นได้ดีในช่วงเซตสาม
“ยังมีจุดที่ต้องปรับเรื่องความนิ่งในเกม และยังขาดประสบการณ์ในการเล่นทีมชาติ ทำให้บางช็อตตีได้ไม่ดีเท่าไร แต่จากแมตช์นี้ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นกับการชนะได้ในแมตช์เดวิสคัพที่มีผลกับทีมไทย และเป็นการชนะมือ 1 เขาด้วย ทำให้สถานการณ์ทีมไทยค่อนข้างได้เปรียบ ส่วนแมตช์ต่อไปกับมือ 2 ฟิลิปปินส์ก็เห็นว่า เขาค่อนข้างตัวใหญ่ ซึ่งถ้าได้โอกาสลงสนามก็จะพยายามเล่นตามเกมตัวเอง เพราะเราสามารถเล่นได้กับทุกคนทุกสไตล์” พลภูมิ กล่าว
วิชยา กล่าวว่า พอใจที่เก็บแต้มให้ทีมได้ ทำให้อยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบขึ้นนำ 2-0 คู่ ขณะที่เกมนี้ในเซตสองอาจมีหลุดนิดหน่อยจนต้องเล่นไทเบรก แต่ก็ยังสามารถคว้าชัยได้ ซึ่งโดยรวมก็รู้สึกพอใจ และก็รู้สไตล์การตีของคู่แข่งอยู่แล้ว ส่วนแมทช์ต่อไป ถ้าหากได้โอกาสลงสนามก็พอจะรู้สไตล์ของมือ 1 ฟิลิปปินส์อยู่แล้ว และค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้
ขณะที่ “กัปตันปิ๊ก” ร.ต.อ.ดนัย อุดมโชค กัปตันทีมเดวิสคัพไทย กล่าวว่า พอใจการแข่งขันวันแรกที่หวังไว้ลึกๆ อยู่แล้วว่าจะขึ้นนำก่อน 2-0 แต้ม และนักกีฬาก็ทำได้ตามเป้าหมาย สำหรับวันที่สองนั้น ก็หวังอีกเช่นกันว่า คู่แฝดไทย “ต้น” สนฉัตร และ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ จะคว้าชัยช่วยให้ทีมไทยชนะขาด 3-0 ได้ เพราะทั้งคู่มีประสบการณ์เยอะพอสมควรอยู่แล้ว ถ้าร่างกายทั้งคู่ไม่มีปัญหาอะไรเชื่อมั่นว่าจะเก็บชัยชนะได้ไม่ยาก แต่ก็จะประมาทไม่ได้
“กัปตันปิ๊ก” กล่าวอีกว่า ได้ให้นักกีฬาทุกคนเตรียมพร้อมเอาไว้สำหรับแมตช์ของตัวเอง ซึ่งหากทีมไทยชนะขาด 3-0 แล้วก็วางแผนไว้ว่าจะให้ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ ดาวรุ่งวัย 18 ปี ลงไปแข่งขันหาประสบการณ์แทน วิชยา เพราะรายการนี้เป็นอีกหนึ่งเวทีที่สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับน้องได้
สำหรับการแข่งขันวันที่ 6 เมษายน คู่แรก เริ่มเวลา 10.00 น. ในประเภทคู่ “ต้น” สนฉัตร รติวัฒน์ มือ 177 ของโลกในประเภทคู่ จับคู่กับ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ มือ 143 ของโลกในประเภทคู่ พบกับ ฟรานซิส เคซี่ย์ อัลคันทาร่า และฮูเรนเซ่ โซซิโม่ เมนโดซ่า ต่อด้วยประเภทเดี่ยวชนมือ วิชยา ตรงเจริญชัยกุล พบกับ เจสัน ปาตรอมบอน และคู่สุดท้าย พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ พบกับ อัลแบร์โต้ ลิม
ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันทาง T-SPORTS CHANNEL เริ่มเวลา 13.00 น. โดยการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนไว้จัดอันดับ รองรับกับการเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) ต่อไป
สามารถติดตามภาพการแข่งขันเพิ่มเติมได้ที่: http://www.ltat.org/photos/ และ Facebook สมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ – LTAT