กระเทาะเปลือกความคิด “ภาธร หาญชัยกุล”เรียนอย่างไร ให้ได้ เกรด A ทุกวิชาเล่นกีฬาอย่างไร ให้ได้ “แชมป์เทนนิส”
“เรียนอย่างไรถึงได้ A ทุกวิชา?” นี่คือคำถามที่อยากรู้คำตอบจากนักเทนนิสหนุ่มเมืองกรุง “ภาธร หาญชัยกุล” นักหวดลูกสักหลาดไทย วัย 18 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เพราะทราบมาว่านักกีฬาคนนี้เรียนเก่งมากๆ …เก่งชนิดที่ว่าได้ A ทุกวิชา ตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงอยากจะล้วงเอาเคล็ดลับดีๆ ของเขา ออกมาแบ่งปันให้นักกีฬารายอื่นๆ ได้ใช้บ้าง
ภาธร เข้ารับการศึกษาที่ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษา ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาแล้ว และจะไปศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่โดดเด่นเรื่องกีฬาเทนนิส ระดับท็อป 5 ของสหรัฐอเมริกา โดยภาธร ซึ่งเลือกเรียนวิศวะ ให้เหตุผลว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีโปรแกรมการฝึกซ้อมเทนนิสที่ดี หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีกำหนดเดินทางไปศึกษาที่นั่น ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
ภาธร เป็นบุตรของ คุณพ่อจุลเมตต์ และคุณแม่พัชรจิตร์ หาญชัยกุล ซึ่งสนับสนุนให้ภาธรก้าวเดินตามความฝันของตัวเองอย่างเต็มที่ สำหรับชื่อเล่นนั้น เพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการกีฬาเทนนิส เรียกเขาว่า “ภาธร” ตามชื่อจริง
“ในห้องเรียน ผมตั้งใจเรียนตลอด หากวันไหนต้องขาดเรียนก็จะอ่านตำราเอง พยายามทำการบ้านและส่งให้ตรงเวลา ไม่เข้าใจอะไร ผมจะถามคุณครูตลอด ผมเป็นคนค่อนข้างจริงจังเรื่องการเรียน อยากจะทำให้ดีที่สุด ถ้าสอบกลางภาคแล้วได้คะแนนไม่ดี ทำตรงไหนไม่ได้ ผมจะกลับมาศึกษาและแก้ไขจนรู้ให้ได้ แล้วอ่านหนังสือเยอะๆ เพื่อให้ได้คะแนนดีๆ ในการสอบปลายภาคครับ” ภาธร เล่าให้ฟัง
หลายคนอาจสงสัย ภาธร เป็นหนอนหนังสือหรือเปล่า? เป็นคนที่ขลุกอยู่กับตำราวิชาการตลอดเวลาหรือไม่? ความจริงคือไม่ใช่ เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของภาธรไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากนักกีฬาเทนนิสคนอื่นๆ ที่เรียนและเล่นเทนนิสไปพร้อมๆ กัน สำหรับ 1 วันของภาธรนั้น หมดไปกับการเรียนหนังสือ ตั้งแต่เวลา 07.30-14.30 น. จากนั้นให้เวลากับการฝึกซ้อมกีฬาเทนนิส เลิกเวลา 19.00 น. ต่อด้วยการทำการบ้าน อ่านหนังสือ และคุยกับเพื่อน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเล่นโซเชียลมีเดีย เข้านอนไม่เกิน 23.00 น. บางวันก็มีเล่นเกมส์ ดูหนัง และไปเที่ยวกับเพื่อนด้วย
“ผมเคยเบื่อที่จะเรียน แต่พอคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเรานะ เราต้องมีวินัย ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ความรู้สึกดีๆ ก็มา พ่อกับแม่สอนผมมาตลอดว่าเรื่องอื่นๆ ให้เป็นเรื่องรอง แต่เรื่องเรียนต้องให้เป็นเรื่องหลัก ฉะนั้น ผมจึงตั้งใจเรียน ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องเสียเงินเปล่ากับการส่งผมไปเรียน ผมอยากจะทำเกรดดีๆ เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ เป็นการตอบแทนพ่อกับแม่ครับ” นักเทนนิสหนุ่มเปิดใจ
นั่นคือเคล็ดลับที่ ภาธร ใช้กับเรื่องการเรียน จนทำให้เขาได้เกรด A ทุกวิชา ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน แต่หากลองใช้เคล็ดลับเดียวกับภาธรคือ “ตั้งใจ+มีวินัย+ใฝ่เรียนรู้” ก็อาจจะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
อีกเรื่องที่ ภาธร ทำได้ดี นั่นคือ “การเล่นกีฬาเทนนิส” ซึ่งเริ่มเล่นมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ โดยคุณพ่อจุลเมตต์ พาไปเล่นเพราะอยากให้มีเพื่อน หลังจากลองเล่นมาแล้วหลายชนิดกีฬา อาทิ เทเบิลเทนนิสหรือปิงปอง แบดมินตัน และฟุตบอล เป็นต้น
ภาธร บอกว่า เทนนิสให้อะไรหลายอย่างแก่เขา สอนบทเรียนชีวิตทั้งในคอร์ตและนอกคอร์ต สอนเรื่องความอดทน ความพยายาม หากต้องการสิ่งใดก็ต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้สิ่งนั้น เช่นเดียวกับการเล่นเทนนิส ก็ต้องตั้งใจฝึกซ้อม หากต้องการชัยชนะ และต้องให้ความสำคัญกับเรื่องจิตใจด้วยเช่นกัน
“มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผมซ้อมหนักกว่าเดิม ทำร่างกายก็ทำครบทุกอย่าง แต่ตอนแข่งกลับแพ้ ทำให้ผมคิดได้ว่า ถึงเราจะเตรียมตัวมาดีแค่ไหน แต่ถ้าลงสนามไปแล้ว ยังกล้าๆ กลัวๆ สิ่งที่เราเตรียมมามันก็สูญเปล่า ฉะนั้น ต้องฝึกจิตใจให้นิ่ง จิตใจสำคัญสุด
ช่วงนั้น ผมนั่งสมาธิทุกวัน พยายามตั้งจิตใจให้สงบ อยู่กับปัจจุบันให้ได้ ควบคุมลมหายใจให้ได้ เวลาแข่งรู้สึกเกร็ง ก็พยายามนำมาใช้ ทำอย่างไรให้ตัวเองผ่อนคลาย ทำจิตใจให้สงบ ผมได้แนวคิดเรื่องการนั่งสมาธิมาจากตอนที่ไปเข้าค่ายธรรมะ พอรู้ตัวว่ามีปัญหาด้านจิตใจ ก็พยายามหาวิธีแก้เอง มันช่วยให้รู้ทันตัวเอง เราตีเสีย เราก็รู้ทัน สงบนิ่งไว้ก่อน” นักหวดลูกสักหลาดหนุ่มเมืองกรุง กล่าว
ภาธร เป็นนักกีฬาในโครงการ แอลทีเอที ของสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งสังเกตได้จากการติดป้ายโลโก้ PTT ที่แขนเสื้อของเขา ล่าสุด ภาธรได้ครองตำแหน่งแชมป์ประเภทชายเดี่ยว “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021” ครั้งที่ 2 หลังจากในรอบชิงชนะเลิศ เอาชนะรุ่นพี่ “ปรัชญา อิสโร” 2-1 เซต 4-6, 6-4 และ 7-5 นับเป็นแชมป์อาชีพรายการแรกของภาธร และเป็นครั้งแรกที่เอาชนะปรัชญาได้ หลังจากที่แพ้มาตลอด
ก่อนหน้านี้ ภาธรเคยได้แชมป์มาแล้วหลายรายการในระดับเยาวชนนานาชาติของ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) แต่รายการที่ปลดล็อกความคิดของเขาคือ การได้แชมป์ประเภทชายเดี่ยว รายการ “พีทีที ไทยแลนด์ ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ เกรด 2” ซึ่งถือเป็นรายการใหญ่ของเยาวชน จัดขึ้นที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2562 เป็นรอบชิงชนะเลิศ ภาธร หาญชัยกุล มือ 186 เยาวชนโลก และมือวางอันดับ 7 ของรายการ พลิกจากที่เป็นรองแพ้ในเซตแรก กลับมาเฉือนเอาชนะ ฌอง มาร์ค มัลคอฟสกี้ มือ 158 เยาวชนโลก และมือวางอันดับ 5 ของรายการจากสวิตเซอร์แลนด์ 2-1 เซต 4-6, 6-2 และ 6-1
“ตอนที่ผมได้แชมป์ไอทีเอฟเกรด 2 ซึ่งถือเป็นรายการใหญ่รายการแรกที่ได้แชมป์ เป็นบทพิสูจน์ว่าผมก็พอมีฝีมือที่จะสู้กับระดับโลกได้ เมื่อก่อนสู้ไม่ค่อยได้ ไม่เคยเข้ารอบลึกๆ เลยครับ
ผมได้ประสบการณ์มากมายจากการไปตระเวนแข่งขันที่ประเทศต่างๆ ผมได้รับการสนับสนุนจากพ่อกับแม่ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนค่าเดินทางจากสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ผมขอขอบคุณสมาคมและ ปตท. หรือ PTT ด้วยครับ นอกจากนี้ในบางครั้งผู้จัดการแข่งขันก็ออกค่าที่พักให้
ช่วงแรกๆ มีพ่อกับแม่ไปด้วย แต่หลังจากนั้นต้องเดินทางไปเอง ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง การกินอยู่คนเดียว รวมทั้งต้องมีสมาธิตอนลงแข่งขัน และอยู่กับตัวเองให้ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็ต้องพึ่งตัวเอง” ภาธร กล่าว
อีกรายการใหญ่ที่ ภาธร เคยไปมาแล้วคือ การแข่งขันเทนนิสเยาวชน แกรนด์สแลมแรกของปี “ออสเตรเลียน โอเพ่น 2020” ที่ประเทศออสเตรเลีย ภาธรทำดีที่สุดคือเมนดรอว์ รอบแรก ทั้งประเภทเดี่ยวและคู่ แม้เข้าไปไม่ถึงรอบลึกๆ แต่ก็ทำให้เขาได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับมาไม่น้อย
อย่างที่เกริ่นในช่วงต้นว่า คุณพ่อจุลเมตต์ และคุณแม่พัชรจิตร์ หาญชัยกุล ให้การสนับสนุนภาธรได้ก้าวเดินตามความฝันของตัวเองอย่างเต็มที่นั้น ซึ่งฝันแรกของ ภาธร คือการได้รับใช้ประเทศไทย ในฐานะ “นักเทนนิสทีมชาติไทยชุดใหญ่” สักครั้ง ตามมาด้วยฝันที่จะก้าวไปเป็น “นักเทนนิสอาชีพ” ที่เขาอยากจะลองทำให้ถึงที่สุดว่าจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหน เขาตั้งใจว่าในช่วงซัมเมอร์ ระหว่างไปเรียนที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน จะลองไปแข่งขันเทนนิสอาชีพอีก และหลังเรียนจบตั้งใจว่าจะเทิร์นโปร
เมื่อถามถึงไอดอล ภาธร ตอบว่า “ผมชอบนักเทนนิสทุกคน แต่ละคนก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ทำให้เราได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ”
และเมื่อให้ฝากข้อคิดไปถึงน้องๆ นักเทนนิสเยาวชน ภาธร กล่าวว่า “ในฐานะนักเทนนิสรุ่นพี่คนหนึ่ง อยากจะบอกน้องๆ ว่า อย่าทิ้งความฝันของตัวเอง เช่น ถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้ ก็อย่าทิ้งเป้าหมายนั้น ให้ทำทุกๆ อย่าง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ที่สำคัญต้องมีวินัย และเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราทำได้”
….
มนุษย์มีเวลาเท่ากันใน 1 วัน คือ 24 ชั่วโมง แต่จะทำอย่างไรให้ทุกนาทีมีความหมายสำหรับตัวเอง ซึ่ง “ภาธร หาญชัยกุล” นักเทนนิสดาวรุ่งไทยอนาคตไกล ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หากเราสามารถบริหารเวลาเพื่อทำในสิ่งต่างๆ ควบคู่กันไปได้ ทั้งเรื่องการเรียนและการเล่นกีฬา ภายใต้ “ความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ความมีวินัยในตนเอง คิดให้เป็น (คิดถูกต้อง) และรู้จักแก้ปัญหา” ท้ายที่สุดแล้ว ก็จะพบกับความหอมหวานของความสำเร็จได้เช่นกัน.