ณัฐรดา สกุลวงศ์ธ
นานางฟ้าเทนนิสดาวรุ่งไทย
คอลัมน์ : เปิดตัวทีมชาติ 2564
ณัฐรดา สกุลวงศ์ธ
นานางฟ้าเทนนิสดาวรุ่งไทย
นับเป็นนักหวดที่น่าจับตา “พิณเพลง” ณัฐรดา สกุลวงศ์ธนา เพราะฝีมือไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถก้าวมายืนในตำแหน่ง นักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยวัยเพียง 12 ปี
ชื่อของ ด.ญ.ณัฐรดา สกุลวงศ์ธนา ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจาก สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่าเป็นนักเทนนิสเยาวชนหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประจำปี พ.ศ.2564 ซึ่งนับเป็นการติดทีมชาติ สมัยที่ 2 หลังจากติดทีมชาติครั้งแรก ปี 2563 ในรุ่นอายุเดียวกันมาแล้ว และที่สำคัญน้องยังเป็นแชมป์ของการแข่งขันคัดเลือกนักเทนนิสทีมชาติไทยในครั้งนี้ด้วย
“หนูดีใจมากและภูมิใจมากค่ะที่ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ ดีใจที่จะได้เล่นเทนนิสให้กับประเทศไทย ก่อนหน้านี้หนูตั้งใจฝึกซ้อมมาก เพราะอยากทำให้ได้ อยากเอาชนะความกดดันทั้งในและนอกสนาม ในที่สุดหนูก็เอาชนะความกดดันนั้นมาได้ค่ะ” น้องณัฐรดา เผยถึงความรู้สึก
จากบทสัมภาษณ์แค่เพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เราอยากรู้จัก “พิณเพลง” มากขึ้น ซึ่งน้องเป็นชาวกรุงเทพมหานคร อายุ 12 ปี (เกิด 14 ม.ค.2552) เป็นแก้วตาดวงใจของ คุณพ่อจตุพล สกุลวงศ์ธนา กับ คุณแม่รัชนีกูล เจริญสุข และมีพี่ชาย 2 คนคือ “ปั๊น” รัชพล สกุลวงศ์ธนา กับ “ปั้น” นิธิวัต สกุลวงศ์ธนา
ใครอยู่วงการเทนนิสเยาวชนเมืองไทย น่าจะเคยได้ยินชื่อของ รัชพล สกุลวงศ์ธนา และ นิธิวัต สกุลวงศ์ธนา มาบ้างแล้ว เพราะทั้งคู่ก็เล่นกีฬาชนิดนี้และต่างมีผลงานการันตีฝีมือ สำหรับพี่ชายคนโต รัชพล เล่นเทนนิสจนได้ทุนไปศึกษาในระดับไฮสคูล (ม.4-6) ระหว่างปี 2021-2023 ที่ “เบย์ลอร์ สคูล” รัฐเทนเนสซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน นิธิวัต อยู่ในชุดเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ในฐานะสำรองเบอร์ 1 ปี 2560
“พิณเพลง สนิทกับพี่ชายทั้ง 2 คนมากครับ ครอบครัวเราชอบพากันไปออกกำลังกาย เริ่มแรกเลย ปั้น เล่นเทนนิสก่อน และไปท้า พิณเพลง ว่ากล้าเล่นไหม พิณเพลง ซึ่งตอนนั้น 6 ขวบ จับแร็กเกตลงเล่นอย่างไม่กลัวเลยครับ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ พิณเพลง เล่นเทนนิสมาถึงทุกวันนี้
การที่พี่ชายคนโตทำตามเป้าหมายของตัวเองได้สำเร็จ คือการติดต่อขอทุนเรียนเอง จนได้ไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาและเดินทางไปคนเดียวได้ เป็นแรงผลักดันให้น้องทั้งสองคนอยากมีเป้าหมายบ้าง โดย พิณเพลง ตั้งเป้าไว้ที่การติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ฉะนั้น ก่อนการแข่งขันคัดทีมชาติ พิณเพลง จึงตั้งใจฝึกซ้อมอย่างมาก กระทั่งทำตามเป้าหมายได้ในที่สุด” คุณพ่อจตุพล เล่าเรื่องลูกสาวให้ฟัง
ปัจจุบัน ณัฐรดา ศึกษาอยู่ Year 7 (ประถม 6) โรงเรียนนานาชาติ เทรลล์ กรุงเทพ (Traill International School : Year 7) โดยมี “ครูเล็ก” เทพฤทธิ์ สิทธินพันธ์ เป็นโค้ชคนแรก และปัจจุบัน ณัฐรดา อยู่ภายใต้การฝึกสอนของ “ครูตู่” ธารวัฒน์ ค้าเจริญ หัวหน้าโค้ช ที่นอกจากสอนทักษะและวิธีการเล่นแล้ว ยังสอนเรื่องการวางตัวของนักกีฬาทั้งในและนอกสนาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทําให้ “พิณเพลง” มีพัฒนาการที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะที่ “โค้ชส้ม” อชิรญา ศรีพรหม ก็ทำหน้าที่ในการฝึกซ้อมให้เช่นกัน
อย่างที่เกริ่นไปในช่วงต้นว่า “พิณเพลง” มีฝีมือที่ไม่ธรรมดา ซึ่งสิ่งที่พิสูจน์ความสามารถของน้องคนนี้คือผลงานและรางวัลจากการแข่งขันรายการต่างๆ นับตั้งแต่น้องมีความเชี่ยวชาญในการจับแร็กเก็ตลงสนาม อาทิ รองชนะเลิศหญิงเดี่ยวและชนะเลิศหญิงคู่ “เอเชียน โฟร์ทีน แอนด์ อันเดอร์ 2021”, ชนะเลิศหญิงเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี “หัวหิน โอเพ่น 2020”, ชนะเลิศหญิงเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี “พีทีที-ลอนเทนนิสพัฒนาฝีมือ” รอบมาสเตอร์ รอบใหญ่สุดของปี 2563
อีกรายการที่จัดโดยสมาคมคือ เทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย รายการใหญ่ที่สุดของประเทศ “พิณเพลง” ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ตั้งแต่ 8 ขวบ มาจนถึงปัจจุบัน และได้รางวัลทุกปี เช่น ชนะเลิศหญิงเดี่ยวและหญิงคู่ รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี ในการแข่งขัน ครั้งที่ 57 ปี 2562 และในวัย 11 ปี ยังได้รองชนะเลิศอันดับ 2 หญิงเดี่ยว และรองชนะเลิศหญิงคู่ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ในการแข่งขัน ครั้งที่ 58 ปี 2563
นอกจากนี้ ตอน 10 ขวบ “พิณเพลง” ยังได้รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของ โรงเรียนนานาชาติ เทรลล์ เมื่อปี 2562 และตอน 9 ขวบ เคยร่วมทีมเยาวชนเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน ที่ประเทศจีน และประเทศเกาหลีใต้ มาแล้ว
“ในช่วงแรก เราคาดหวังกับ พิณเพลง ไว้แบบระยะยาว แต่มันกลายเป็นความกดดันมาสู่ตัวลูก ก็เลยคุยกันใหม่และเปลี่ยนวิธีคิด มองไปทีละเป้าหมายดีกว่า ทุกๆ ครั้ง จะบอกลูกว่าทำให้เต็มที่ เล่นให้สนุก ไม่ว่าผลออกมาจะแพ้หรือชนะ เพราะถ้าแพ้เรายังสามารถกลับมาปรับปรุงแก้ไขได้ ก่อนแข่งคัดทีมชาติครั้งนี้ เราได้บอกกับ พิณเพลง ให้นึกถึงบทเรียนตอนคัดทีมชาติปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้น พิณเพลง ชิงอันดับ 3 มีความกดดันมาก จึงบอกกับลูกว่าถ้าเรากดดันแล้วจะเกิดอะไรกับตัวเอง และขอให้นำสิ่งที่ดีตอนฝึกซ้อมลงไปใช้ในสนามแข่งด้วย” คุณพ่อจตุพล และคุณแม่รัชนีกูล ร่วมกันเปิดเผย
“เท้าเทวดา นางฟ้าเริงระบำ” คือฉายาของ น้องณัฐรดา ที่ คุณเลิศพรไชย ไชยฤทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และ คุณกาญจนา ไชยฤทธิ์ ภริยา ผู้เล่นกีฬาเทนนิส ที่ชื่นชอบและติดตามเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาเยาวชนมานาน ตั้งฉายาให้เพราะมองเห็นถึงความสามารถที่ฉายออกมาผ่านท้วงท่าลีลาการตีเทนนิสที่สวยงาม แต่เฉียบคมในการจบเกมเพื่อทำคะแนน
สไตล์การเล่นเทนนิสของ “พิณเพลง” นั้น น้องเล่นสไตล์ Baseline player เป็นการเล่นแบบการตีกราวน์สโตรกท้ายคอร์ต มีความเหนียวแน่น วางบอลจากท้ายคอร์ต เล่นเป็นเกมบุก และเมื่อมีความแข็งแรงมากขึ้น ก็เปลี่ยนเป็นการเล่นสไตส์แบบ all court โดย “พิณเพลง” นั้น ชื่นชอบสไตล์การเล่นอันทรงพลังของ “เซเรนา วิลเลียมส์” อดีตนักเทนนิสหญิง มืออันดับ 1 ของโลกชาวอเมริกัน
“ลูกสาวชอบกีฬาเทนนิสมากค่ะ ตอนอายุ 8 ขวบ จะขอดูเทปการแข่งขันของ เซเรนา วิลเลียมส์ ก่อนเข้านอนทุกคืน ต่อมามีอยู่เช้าวันหนึ่ง พิณเพลง ตื่นนอนขึ้นมาแล้วเข้าไปเขียนข้อความในอินสตาแกรมของ เซเรนา วิลเลียมส์ บอกว่า ฉันอยากจะเป็นเหมือนคุณ ฉันรักคุณ” คุณแม่รัชนีกูล เล่าถึงความน่าเอ็นดูของลูกสาวให้ฟัง พร้อมกล่าวถึงสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ ต่อด้วยว่า
“ขอบคุณสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ที่ช่วยจัดการแข่งขันคัดเลือกนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย เป็นแรงผลักดันที่ดีเยี่ยมในการฝึกซ้อมและทำให้นักเทนนิสเยาวชน รวมถึง พิณเพลง ได้มีเป้าหมายในการเล่นกีฬาชนิดนี้ด้วย”
นักกีฬาทุกคนย่อมมีความฝัน ซึ่งฝันก็แตกต่างกันออกไป สำหรับนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทยคนนี้ “พิณเพลง” ที่ปัจจุบัน รั้งมืออันดับ 1 ของเยาวชนประเทศไทย ในรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และยังรั้งอันดับ 21 ในรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี น้องฝันอยากเป็น “นักเทนนิสอาชีพและมีผลงานติดอันดับท็อปของโลก”
ด้วยฝีมือและชั้นเชิงในการเล่นเทนนิสที่ฉายแววตั้งแต่เด็กๆ รวมทั้งการมีสรีระของนักกีฬาที่น่าจับตา บางทีฝันใหญ่ของ “พิณเพลง” ก็อาจเป็นจริงได้สักวัน ถ้าน้องใช้พลังแห่งความรักในกีฬาเทนนิสเป็นตัวขับเคลื่อนความฝัน และที่สำคัญ ไม่ลดขนาดของความพยายามไปเสียก่อน เชื่อว่าวันนั้นจะมาถึง วันที่กองเชียร์ได้ชื่นใจกับผลงานของ “พิณเพลง” ณัฐรดา สกุลวงศ์ธนา ทั้งในฐานะนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทยในตอนนี้ และนักเทนนิสอาชีพหญิงจากประเทศไทยในอนาคต.