โควิด-19 กระทบใจนักเทนนิสหญิงมากกว่าชาย
ในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักไปทั่วโลกแบบนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจของนักเทนนิสไม่มากก็น้อย เพราะการกลัวติดเชื้อซึ่งส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างอีกหลายคน
มีผลสำรวจที่น่าสนใจเกี่ยวกับการถอนตัวจากการแข่งขันเทนนิสของนักหวดชื่อดังหลายๆ คน โดยซูซานนา โคลาวิก นักวิจัยในสถาบันวิจัยโครงสร้างทางสังคม ที่กรุงวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ ออกมาว่า นักเทนนิสผู้หญิงมีความคิดในการถอนตัวมากกว่านักเทนนิสผู้ชาย
โคลาวิกพิจารณาจากการถอนตัวในแกรนด์สแลม “ยูเอส โอเพ่น” ที่สหรัฐอมเริกา เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเทนนิสรายการใหญ่รายการแรกที่แข่งขันหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใหม่ๆ ตอนนั้นมีนักหวดถอนตัว 25 คน 19 คนเป็นผู้หญิง และผู้ชาย 6 คน ซึ่งถือว่าเพศเป็นปัจจัยที่จะโน้มน้าวให้ในการถอนตัวแตกต่างกันอย่างชัดเจน
อีกปัจจัย คือ ที่พำนัก อายุและอันดับโลกของนักเทนนิสคนนั้นๆ ก็มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจด้วย
นักเทนนิสที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดน้อยหรือมีมาตรการที่ป้องกันการระบาดได้ดี จนรู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่บ้านมากกว่าแข่งขัน มักจะถอนตัวมากกว่านักกีฬาที่อยู่ในประเทศที่มีการติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูง
นักเทนนิสที่อายุมากและอันดับโลกสูงก็จะมีโอกาสถอนตัวสูงกว่าเช่นกัน นักหวดที่อยู่ในอันดับ 1-50 ของโลก จะเป็นกลุ่มนักเทนนิสที่ได้เงินรางวัลการแข่งขัน 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินทั้งหมดที่มีในทัวร์ และนักเทนนิสในอันดับ 1-50 ของโลก จะมีรายได้มากกว่าอันดับ 51-100 ของโลกอยู่ 5 เท่า ทำให้นักเทนนิสท็อป 50 ของโลก พร้อมจะถอนตัวจากการแข่งขันมากกว่า เพราะมีรายได้ตุนเพียงพอที่จะใช้จ่ายอยู่แล้ว
นักวิจัยได้สรุปการวิเคราะห์สถิติออกมาว่า ผู้หญิงจะมีความรู้สึกต่อการแพร่ระบาดครั้งนี้มากกว่าผู้ชายทำให้ต้องการที่จะรักษาเนื้อรักษาตัวไม่ให้ติดเชื้อมากกว่าที่ผู้ชายทำ ดังนั้นองค์กรที่จัดการแข่งขันเทนนิสต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนกฎระเบียบในการแข่งขันระหว่างที่โควิด-19 ยังระบาดอยู่ให้นักเทนนิสผู้หญิงรู้สึกปลอดภัย และอุ่นใจกับการจะลงแข่งขันให้มากขึ้น เพื่อพวกเธอจะไม่พาเหรดกันถอนตัวเหมือนในยูเอส โอเพ่น ปีที่แล้วอีก
ภาพจาก clubgreenwood.com