“น็อต” ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย
เลือก “เทนนิส” นำทางชีวิต
จุดประกายฝันสู่ “รางวัลเพื่อครอบครัว”
คอลัมน์ : เปิดตัวทีมชาติ 2564
“น็อต” ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย
เลือก “เทนนิส” นำทางชีวิต
จุดประกายฝันสู่ “รางวัลเพื่อครอบครัว”
ในวงการกีฬาเทนนิสระดับเยาวชนของประเทศไทย “น็อต” ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย จัดเป็นนักหวดที่ถูกจับตา ด้วยสไตล์การเล่นเทนนิสที่ถูกใจกองเชียร์นับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่ยังเป็นนักหวดรุ่นเล็กพริกขี้หนู กระทั่งเติบโตเป็นหนุ่มน้อยวัย 15 ปี ในปัจจุบัน
สำนวนที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” น่าจะใช้ได้กับ ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย ในการเปรียบเปรยจิตใจของเขาว่ามีความผูกพันธ์กับกีฬาชนิดนี้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นได้จากความพยายามทำผลงานที่ผ่านมา รวมถึงการฟันฝ่าจนได้เป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทยถึง 5 สมัยติดต่อกัน นับตั้งแต่อายุได้ 12 ปี ซึ่งสมัยล่าสุดหรือปีนี้ ศุภวัฒน์ ติดทีมชาติไทย ในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี
ศุภวัฒน์ ไม่ได้เป็นดาวเด่นเพียงวงการเยาวชนเท่านั้น แต่ยังเป็นรุ่นน้องที่ถูกจับตามองในฐานะดาวรุ่ง หลังจากที่เขามีชื่อติดอยู่ในโผนักหวดที่มีสิทธิ์ร่วมคัดทีมชาติชุดใหญ่ของปี 2564 ด้วย และถึงแม้ว่าเขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะก้าวไปถึงจุดหมายสุดท้ายได้ แต่รุ่นพี่ที่มีโอกาสแข่งขันกับ ศุภวัฒน์ ก็ออกปากเลยว่า กว่าจะจบแมทช์กันได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ผมดีใจและภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ มันคือเป้าหมายแรกๆ ตั้งแต่ผมเริ่มเล่นเทนนิส เพราะอยากให้พ่อกับแม่ภูมิใจ ผมเห็นท่านเหนื่อยกับผมมามาก อยากตอบแทนให้พ่อกับแม่มีความสุข ทุกปีที่ผมลงแข่งขันคัดทีมชาติ ก็พยายามทำให้ได้ทุกปี” นักหวดหนุ่มวัย 15 ปี กล่าว
“น็อต” เป็นชาวภูเก็ต เป็นลูกชายคนเล็กของ คุณพ่อเกรียงศักดิ์ แซ่อุ้ย และคุณแม่สุดาเพ็ญ อารามเวศย์วงศ์ มีพี่ชาย 1 คนคือ “หนึ่ง” ศุภวิชญ์ แซ่อุ้ย ซึ่งใครอยู่วงการเทนนิสเยาวชนมานาน น่าจะจำชื่อเสียงเรียงนามของ ศุภวิชญ์ กันได้ เพราะเขาเคยเป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี อีกทั้งยังเคยร่วมทีมนักเรียนไทยไปแข่งขันกีฬานักเรียนอาเซียน ครั้งที่ 8 “อาเซียนสกูลเกมส์ 2016” ที่ จ.เชียงใหม่ คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง และยังเป็นนักกีฬายอดเยี่ยมฝ่ายชายของเทนนิส ในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 32 “สุพรรณบุรีเกมส์”
จากภาพผลงานต่างๆ ของพี่ชาย มันกลายเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นเทนนิสของ “น็อต” ที่อยากลิ้มรสชาติความหอมหวานของความสำเร็จเหมือนกับพี่ชายบ้าง ทำให้เขามีความสุขทุกครั้งที่จับแร็กเกตลงสนาม ซึ่งเริ่มเล่นตอนอายุ 5 ขวบ โดยมี อาจารย์วรนุช อินทนา เป็นโค้ชคนแรก และปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของ “แอลทีเอที อะคาเดมี่” ที่มี PTT หรือ ปตท. ให้การสนับสนุน
“ตอนเด็กๆ ผมเห็นพี่ชายได้รับรางวัลจากการแข่งขัน มีอันดับเยาวชนโลก ได้แชมป์เทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย มันทำให้ผมอยากเป็นแบบเขาบ้าง ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าวันหนึ่งจะเก่งแบบพี่ชายให้ได้ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมตั้งใจเล่นเทนนิสมากขึ้นกว่าเดิม” น้องน็อต เผย
ด้วยการเล่นเทนนิส สไตล์ “ออล คอร์ต” (All Court) บวกกับหัวใจนักสู้ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ทำให้ “น็อต” ฝากผลงานไว้มากมาย อาทิ ชนะเลิศทั้งประเภทเดี่ยวและคู่ เทนนิสไอทีเอฟ เกรด 5 รายการ “เจ 5 แคมโบเดีย 2019” ที่ประเทศกัมพูชา, ชนะเลิศทั้งประเภทเดี่ยวและคู่ เทนนิสไอทีเอฟ รายการ “แอลทีเอที ไอทีเอฟ เกรด 5” ปี 2563 ที่ประเทศไทย
และยังทำได้ดีในศึกเทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย รวบแชมป์มาได้ทั้งประเภทเดี่ยวและคู่หลายครั้ง เช่น ในการแข่งขัน ครั้งที่ 51 ปี 2556 ได้แชมป์เดี่ยวและคู่ จากรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี, ครั้งที่ 53 ปี 2558 ได้แชมป์เดี่ยวและคู่ จากรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี และครั้งที่ 57 ปี 2562 ได้แชมป์เดี่ยวและคู่ รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี
นอกจากนี้ “น็อต” ยังได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ “ลองจินส์ โรด ทู ฟิวเจอร์ เทนนิส เอช ทัวร์นาเมนต์ 2018” ซึ่งมีเพียง “น็อต” กับ “หมิว” สลักทิพย์ อุ่นเมือง ที่ได้ร่วมโครงการ ได้ไปฝึกซ้อมกับโค้ชระดับโลก อย่าง อเล็กซ์ คอร์เรตจา, อรันต์ซ่า ซานเชส วิคาริโอ ได้รับการดูแลจาก สเตฟฟี่ กราฟ และ อังเดร อากัสซี่ พร้อมร่วมชมการแข่งขันเทนนิสคอร์ตดินระดับตำนาน “เฟรนช์ โอเพ่น 2018” อีกด้วย และ “น็อต” ยังได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทย ไปร่วมการแข่งขันเทนนิสในโครงการ “ไอทีเอฟ เอเชียน โฟร์ทีน แอนด์ อันเดอร์ จีเอสดีเอฟ ทีม ทู ยูโรป 2019” ซึ่งได้ลงแข่งขันคอร์ตดิน ในการแข่งขันเทนนิส ยุโรป จูเนียร์ ทัวร์ หลายรายการ
ด้านคุณพ่อเกรียงศักดิ์ แซ่อุ้ย ซึ่งเล่นบาสเกตบอลอยู่แล้ว แต่ก็หันมาเล่นกีฬาเทนนิสด้วยเพราะอยากเป็นคู่ซ้อมให้กับลูกชาย เช่นเดียวกับศรีภรรยา คุณแม่สุดาเพ็ญ ที่ตัดสินใจหัดเล่นเทนนิสเพื่อลูกชายโดยเฉพาะ
“พ่อกับแม่คอยสนับสนุนลูกในทุกๆ เรื่องที่ดี คอยประคับประคอง เราอยากให้เขาไปได้สูงสุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เราภูมิใจกับความสำเร็จของลูก ผมบอกกับน็อตเสมอว่า แค่ทำให้ได้ตามมาตรฐานของตัวเอง ถ้าเราแพ้นั่นคือคู่แข่งขันเล่นดีกว่าเรา ฉะนั้น ไม่ต้องคิดมาก กลับมาแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด และพยายามเล่นให้ได้ตามมาตรฐานของตัวเองที่เคยทำไว้ได้ดี ผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูง ไม่อยากกดดันเขา ค่อยๆ ก้าวไปตามแต่ละสถานการณ์” คุณพ่อเกรียงศักดิ์ กล่าว
นักเทนนิสหนุ่มน้อยจาก “เมืองไข่มุกอันดามัน” รายนี้ ชื่นชอบ “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” นักเทนนิสอาชีพชายชาวสวิส วัย 39 ปี ที่เคยรั้งมือ 1 ของโลก และปัจจุบันยังอยู่ในท็อป 10 ของโลก เพราะมองว่าเขาเป็นนักเทนนิสที่มีความสามารถสูงมาก และสามารถเล่นได้หลากหลาย อีกทั้ง “น็อต” ยังมีความฝันอยากจะทำผลงานระดับโลกได้ดีเหมือนกับ “ซูเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ ตำนานเทนนิสเมืองไทย ที่เคยรั้งมืออันดับ 9 ของโลกและครองมือ 1 ของเอเชียมาแล้ว
“ตอนนี้เทนนิสได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ในชีวิตผมแล้ว ผมตัดสินใจย้ายโรงเรียนมาเรียนที่โรงเรียนกีฬาเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี อยากเล่นเทนนิสแบบเต็มตัว ผมตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดในทุกๆ หน้าที่
หากมีโอกาส สักวันหนึ่ง ผมอยากได้แชมป์ในระดับสูงที่สุดที่คนไทยน้อยคนนักจะทำได้ อยากติดท็อป 100 ของโลก อยากทำได้แบบพี่บอล-ภราดร ผมอยากมีรายได้จากการเล่นเทนนิสอาชีพ เพื่อเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวในอนาคต ส่วนเป้าหมายใกล้ๆ อยากติดทีมชาติชุดใหญ่ให้ได้” ศุภวัฒน์ เปิดใจ
หลายครั้งที่ ศุภวัฒน์ ออกไปทำหน้าที่ในฐานะนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย เขาได้แสดงศักยภาพและพิสูจน์ความสามารถให้เห็นว่า เขาทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มให้ทีมเทนนิสเยาวชนไทยมีความแข็งแกร่ง เช่น ศุภวัฒน์ ได้ร่วมกับ “ปังปอนด์” รชตะ ธรรมเจริญสถิต และ “ฟารุก” ทินภัทร เทียนธวัช คว้าอันดับ 3 รายการ “2019 ไอทีเอฟ เวิลด์ จูเนียร์ เทนนิส คอมเพทติชั่น” รอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของโซนเอเชีย/โอเชียเนีย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้ทีมไทยได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันรอบสุดท้ายของโลก “2019 ไอทีเอฟ เวิลด์ จูเนียร์ เทนนิส ไฟนอลส์” ที่เมืองโปรสเตยอฟ สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งใช้คอร์ตดินทำการแข่งขัน และปรากฏว่า ทีมไทยได้อับดับ 13 ของรายการ ซึ่งนับเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจาก ญี่ปุ่น ที่ได้อันดับ 6 ของรายการ
และในการทำหน้าที่ นักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ของปีนี้ก็เช่นกัน เชื่อว่า ศุภวัฒน์ จะทำหน้าที่ของเขาได้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
ขณะที่เรื่องความฝันที่มีอยู่เต็มบ่าของเขา ณ วันนี้ ซึ่งเป็นความฝันที่สวยงามตามจินตนาการของเด็กคนหนึ่งที่เลือกกีฬา “เทนนิส” เป็นเครื่องมือนำทางชีวิต ก็อาจกลายเป็นจริงขึ้นได้สักวัน ตราบใดที่เขายังไม่ละทิ้งความพยายาม ไม่ลืมวันที่ตัดสินใจเลือกเล่นเทนนิสอย่างเต็มตัว ไม่ลืมคำสอนของครอบครัว และไม่ลืมว่าตัวเองเคยขีดเขียนความฝันเรื่องเทนนิสไว้อย่างไร …เรา…ในฐานะกองเชียร์ อาจได้ชื่นใจกับผลงานของ
“น็อต” ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย บนเวทีอาชีพระดับโลกก็เป็นได้ รวมถึงได้เห็นภาพแห่งความจริงที่สะท้อนมาจากคำพูดของเขาที่ว่า “ผมอยากได้แชมป์ในระดับสูงที่สุดที่คนไทยน้อยคนนักจะทำได้”
