“รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี นักหวดน้องเล็กของทีมเทนนิสหญิงไทย

Written by LTAT Admin

“รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี
นักหวดน้องเล็กของทีมเทนนิสหญิงไทย

คอลัมน์ : เปิดตัวทีมชาติ 2564
“รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี
นักหวดน้องเล็กของทีมเทนนิสหญิงไทย

หากเปิดรายชื่อนักกีฬาเทนนิสหญิงทีมชาติไทยชุดนี้ จะเห็นได้ว่านักหวดส่วนใหญ่ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็นวัยรุ่นทีนเอจ หนึ่งในนั้นคือ “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี นักหวดสาวดาวรุ่งที่มีอายุน้อยที่สุดในทีม ด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปี เท่านั้น

ลัลนา เกิดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 เป็นชาวอำเภอเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของ คุณพ่อพงค์ธร และ คุณแม่อินทิรา ธาราฤดี

“รวงข้าว” คือหนึ่งในเพชรเม็ดงามของวงการเทนนิสไทย โดยเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนที่ชื่อของเธอจะเริ่มเป็นที่รู้จัก หลังจากทำผลงานได้โดดเด่นในเวทีระดับเยาวชน พัฒนาฝีมือจนก้าวมาเป็นขาประจำของทัพนักหวดเยาวชนทีมชาติไทย ซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงคือการเป็นกำลังหลักในทีมชุดสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ เทนนิสเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รายการ “จูเนียร์ เฟดคัพ บาย บีเอ็นพี พาริบาส์ 2019” รอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี ก่อนจะไปคว้าอันดับ 6 ในการแข่งขัน “จูเนียร์ เฟดคัพ บาย บีเอ็นพี พาริบาส์ ไฟนอลส์ 2019” หรือรอบสุดท้ายของโลกที่ประเทศสหรัฐ อเมริกา ในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว ในการแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ ได้ถึง 8 รายการ จนเคยขึ้นไปถึงอันดับ 106 ของโลกในรุ่นเยาวชนมาแล้ว รวมถึงคว้าแชมป์หญิงเดี่ยว รุ่น 16 ปี เทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 มาครองได้สมราคาตัวเต็ง

ปัจจุบัน “รวงข้าว” ในวัย 16 ปี ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ชั้น ม.5 ส่วนในเส้นทางกีฬาเทนนิสอยู่ในความดูแลของทีมงานผู้ฝึกสอนแห่งค่าย “สิงห์ คอร์ปอเรชั่น” ซึ่งดูแลกันมาตั้งแต่เธออายุได้ 14 ปี ภายใต้การควบคุมของ “ครูตู่” ธารวัฒน์ ค้าเจริญ โดยมี “โค้ชส้ม” อชิรญา ศรีพรหม ซึ่งเป็นทั้งโค้ชและพี่สาวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับนักหวดสาวใต้รายนี้ มีสไตล์การเล่นที่เน้นการโจมตีจากท้ายคอร์ต ด้วย​สโตรกที่หนักหน่วงและดุดันเกินวัย โดยมี อิกา สเวียเต็ก นักเทนนิสดาวรุ่งโปแลนด์ มือ 9 ของโลก เป็นต้นแบบแนวทางในการเล่น ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ระดับอาชีพภายในประเทศ ศึกไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ “รวงข้าว” ได้พิสูจน์ฝีไม้ลายมือ ให้เห็นแล้วว่า แม้เธอจะมีอายุและประสบการณ์ที่น้อยกว่าใคร แต่กลับสามารถต่อกรกับบรรดานักหวดรุ่นพี่ระดับชั้นนำของประเทศ จนก้าวไปถึงตำแหน่งรองแชมป์

ด้านความสำเร็จของ “รวงข้าว” ด้วยวัยเพียง 16 ปี ในการแข่งขันคัดเลือกนักกีฬาเทนนิสทีมชาติไทยชุดใหญ่ ประจำปี 2564 ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากการเตรียมตัวและการทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพของทีมงาน ที่เล็งเห็นถึงปัญหา และแก้ไขได้ทันท่วงที

“ที่ผ่านมาข้าวมีปัญหาในเรื่องอาการบาดเจ็บ ร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ ระบบพลังงานก็ยังไม่คงที่ ทีมงานจึงได้ช่วยกันปรับทั้งเรื่องการกิน เวลาการนอน เสริมโปรตีน รวมถึงให้วิ่งเพิ่มหลังซ้อมเสร็จ และทำเวทเทรนนิ่งเพิ่มกล้ามเนื้อขา ทำให้ร่างกายมีพัฒนาการดีขึ้น” รวงข้าว เผยถึงการเตรียมตัวก่อนลงคัดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต

ในการแข่งขันคัดเลือกนักกีฬาเทนนิสทีมชาติไทยชุดใหญ่ ประจำปี 2564 ที่ผ่านมา แม้ว่า “รวงข้าว” จะลงสนาม ในฐานะผู้เข้าแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดก็ตาม แต่เมื่อร่างกายพร้อม ใจพร้อม ประกอบกับความมุ่งมั่นของเธอที่อยากจะมีธงไตรรงค์ติดหน้าอก จึงสามารถก้าวผ่านอุปสรรค และขีดจำกัดต่างๆ ไปได้อย่างสวยงาม ตามเป้าหมาย

“ยอมรับว่าคัดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ก็มีความคาดหวังว่าอยากจะติด แต่ไม่ได้กดดันตัวเอง ข้าวเริ่มแข่งด้วยการไม่คิดอะไรเลย เพราะทุกคนในทัวร์นาเมนต์เป็นรุ่นพี่ของข้าวหมด จนถึงในช่วงของรอบสุดท้ายที่เป็นการชี้ชะตาว่าใครจะได้ติดทีมชาติ ซึ่งข้าวเริ่มต้นไม่ดีด้วยการแพ้ ไหม ณภัทร ทำให้ตอนนั้นเริ่มมีบรรยากาศของความกดดันเข้ามา แต่ก็ได้กำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะ พี่ส้ม (โค้ช) ที่บอกว่า หลังจากนี้ไม่มีอะไรจะเสีย แค่ลงไปเล่นตามเกมของตัวเอง และใส่ให้สุด จนในที่สุดก็สามารถเก็บชัยชนะได้ในอีก 2 แมทช์ที่เหลือ” ลัลนา เผยถึงความรู้สึกในช่วงเวลาการคัดตัวทีมชาติ

นอกจากนี้ ลัลนา ยังได้เผยถึงแมทช์ที่หนักที่สุดในการคัดตัวทีมชาติที่ผ่านมา โดยยกให้การเผชิญหน้ากับ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มรอบสอง เป็นแมทช์ที่หนัก พร้อมกับยอมรับในฝีมือของนักหวดรุ่นพี่วัย 26 ปี และยกให้เป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือด้วยยากที่สุดในทัวร์นาเมนต์

“ในแมทช์นั้นข้าวคิดว่าส่วนตัว ข้าวทำได้ดีแล้ว มีหลายครั้งที่ข้าวมีสถานการณ์ได้เปรียบ เหมือนจะเบรกเกมเสิร์ฟพี่เขาได้ แต่พี่อีฟเขานิ่งมาก สามารถรับมือ และเอาตัวรอดในแต้มที่กดดันได้ดีกว่า จนข้าวแพ้ไปในแมทช์นั้น ซึ่งการแพ้ในแมทช์นี้ทำให้ข้าวได้เรียนรู้เกมการเล่นที่แตกต่าง และนำมาพัฒนาในเกมการเล่นของตัวเองค่ะ” ลัลนา พูดถึงนักหวดรุ่นพี่ อีฟ พัชรินร์ ว่าเป็นนักหวดที่รับมือยากที่สุดในทัวร์นาเมนต์คัดตัวทีมชาติ

การมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ของ “รวงข้าว” ในครั้งนี้ ทำให้ความฝันของเธอที่อยากจะรับใช้ชาติในการแข่งขันทัวร์เมนต์ระดับนานาชาติกลายเป็นจริง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก แต่ก็มีเป้าหมายใหญ่ที่ท้าทาย คือการคว้าเหรียญทองในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนามมาครองให้ได้

“ตั้งแต่เด็กแล้ว ข้าวชอบเล่นกับคนอายุเยอะกว่า หรือฝีมือเก่งกว่า ทำให้รู้สึกท้าทายตัวเอง แพ้ก็ไม่เป็นไร กลับมาพัฒนาตัวเองเพิ่ม วันที่ติดทีมชาติ ดีใจมากค่ะ เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ ถึงจะมาเร็วกว่าที่คิด แต่ด้วยความรักเทนนิส นำพาข้าวมาถึงเป้าหมาย ข้าวรักเทนนิสมากค่ะ ข้าวทุ่มเทให้กับมันมาก ส่วนในซีเกมส์ครั้งนี้ถ้ามีโอกาสก็อยากจะคว้าเหรียญทองในประเภทหญิงเดี่ยวให้ได้ค่ะ”

ในช่วงที่ผ่านมา “รวงข้าว” ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง ซึ่งหลังจากที่ได้พิสูจน์ด้วยการเป็นนักหวดที่อายุน้อยที่สุดในทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้แล้ว เป้าหมายในอนาคตของเธอคือการก้าวไปเล่นในระดับอาชีพ และทำอันดับให้อยู่ในท็อป 100 ของโลกให้ได้เร็วที่สุด

LTAT