“วิมเบิลดัน-ยูเอส โอเพ่น” เปิดให้ผู้ชมเข้าสนาม
การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม 2 รายการสุดท้ายของปี ศึก “วิมเบิลดัน” ที่ออล อิงแลนด์ คลับ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน-11 กรกฎาคมนี้ และ “ยูเอส โอเพ่น” ที่ฟลัชชิ่ง มีโดว์ส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม-12 กันยายนนี้ จะเปิดให้แฟนเทนนิสเข้าไปชมการแข่งขันได้จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19”
สำหรับศึกวิมเบิลดันนั้น เป็นหนึ่งในอีเวนต์นำร่องที่รัฐบาลอังกฤษคลี่คลายมาตรการคุมเข้มช่วงโควิดระบาดสำหรับอีเวนต์กีฬากลางแจ้ง โดยจะอนุญาตให้ผู้ชมเข้าไปในพื้นที่ของออล อิงแลนด์ คลับ ได้วันละไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว วันที่ 10-11 กรกฎาคม จะเปิดให้ผู้ชมเข้าชมการแข่งขันได้เต็มความจุ 15,000 ที่นั่งของเซ็นเตอร์คอร์ต
ผู้ชมที่จะเข้าชมการแข่งขันได้ต้องมีหลักฐานการฉีดวิคซีน รวมถึงผลตรวจโควิดเป็นลบ หรือมีหลักฐานระดับแอนตี้บอดี้หลังจากเคยติดเชื้อโควิดมาในช่วง 6 เดือนก่อนหน้าการแข่งขัน จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าสนามได้
ส่วนการแข่งขันยูเอส โอเพ่น นั้น สมาคมเทนนิสแห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า จะอนุญาตให้แฟนๆ เข้าชมการแข่งขันในสนามได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากเมื่อปีที่แล้วที่ต้องเลื่อนโปรแกรมแข่งขันและไม่อนุญาตให้แฟนๆ เข้าชม
ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ คูโอโม ที่จะคลายมาตรการล็อกดาวน์ และข้อบังคับเรื่องการเว้นระยะทางสังคม หลังจากประชากรผู้ใหญ่ของรัฐได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ลีกกีฬาอาชีพหลายๆ ลีกก็เริ่มเปิดให้ผู้ชมเข้าชมการแข่งขันมากขึ้น หรือเต็มความจุของสนามแล้ว
เท่ากับว่าศึกยูเอส โอเพ่น ปีนี้จะเป็นแกรนด์สแลมแรกที่เปิดให้ผู้ชมเข้าชมการแข่งขันได้เต็มที่นับตั้งแต่ศึก “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ปี 2020 ซึ่งจัดก่อนหน้าสถานการณ์โควิดระบาดหนักทั่วโลก
ภาพจาก wimbledon.com / usopen.org