“คุณสุชัย” นายกเทนนิสไทยสมัย 2 เครื่องร้อน
รุดจับมือ “องค์กรโลก+เอเชีย” จัดศึกหวดทั้งปี
นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้สานต่อนโยบายส่งเสริมสนับสนุน และพัฒนากีฬาเทนนิสของประเทศไทยในทุกด้านทันที หลังได้รับความไว้วางใจจากสโมสรเครือสมาชิกในการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมเป็นสมัยที่ 2
นายสุชัย เปิดเผยว่า หนึ่งในนโยบายหลักที่สมาคมฯ ให้ความสำคัญอย่างมากคือ การนำรายการแข่งขันระดับนานาชาติหรือระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยนักเทนนิสไทย ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเหมือนไปแข่งขันที่ต่างประเทศ ฉะนั้น จึงได้ประสานไปยัง สมาพันธ์นักเทนนิสชาย (เอทีพี) ขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเทนนิสชายนานาชาติ เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ทัวร์ ระดับชาลเลนเจอร์ 75 จำนวน 3 รายการ ซึ่งทาง เอทีพี ได้อนุมัติแล้ว และจะเริ่มจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
รายการแรกคือ BANGKOK OPEN 2025 (1) ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2567 – 4 ม.ค. 2568 ต่อด้วย BANGKOK OPEN 2025 (2) ระหว่างวันที่ 5 – 11 ม.ค. และ BANGKOK OPEN 2025 (3) ระหว่างวันที่ 12-19 ม.ค. โดยทั้ง 3 รายการ จะมีการชิงเงินรางวัลรวมรายการละ 84,050 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,898,044 บาท
นอกจากนี้ สมาคมยังได้ร่วมกับ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) จะจัดการแข่งขันเทนนิสชายนานาชาติ จำนวน 9 รายการ, เทนนิสหญิงนานาชาติ จำนวน 11 รายการ และเทนนิสเยาวชนนานาชาติ จำนวน 9 รายการ ในขณะที่ สหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) ก็เห็นชอบให้สมาคมจัดการแข่งขันเยาวชนเอเชียอีก 8 รายการ โดยยังไม่รวมการแข่งขันที่เตรียมยื่นขอรับเป็นเจ้าภาพในอนาคตอีกหลายรายการ ฉะนั้น จะทำให้มีรายการนานาชาติ สำหรับนักเทนนิสไทยทุกระดับเกือบทั้งปี ซึ่งยังไม่รวมรายการภายในประเทศ
นายสุชัย กล่าวต่อว่า ในจำนวนรายการที่ ไอทีเอฟ อนุมัติให้สมาคมเป็นเจ้าภาพ มีรายการใหญ่รวมอยู่ด้วย ซึ่งจะจัดควบคู่กับรายการของเอทีพี ชาเลนเจอร์คือ ไอทีเอฟ วีเมนส์ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ ดับเบิลยู75 นนทบุรี รายการ ITF World Tennis Tour Presented by SAT (1) ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,413,600 บาท ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2567 – 5 ม.ค. 2568 และรายการ ITF World Tennis Tour Presented by SAT (2) ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,413,600 บาท ระหว่างวันที่ 5 – 12 ม.ค.
