บีช เทนนิส พัฒนาสู่กีฬาอาชีพได้

บีช เทนนิส พัฒนาสู่กีฬาอาชีพได้

บีช เทนนิส พัฒนาสู่กีฬาอาชีพได้
สัปดาห์ที่แล้วเราไปรู้จัก “บีช เทนนิส” กันไปแล้วว่าเล่นกันอย่างไร มีอุปกรณ์อะไรบ้าง และเหตุใดถึงได้ขึ้นแท่นกลายเป็นกีฬายอดฮิตของกลุ่มกีฬาชายหาด แถมยังมีแนวโน้มว่าฐานผู้เล่นกีฬาชนิดนี้จะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย จากความตั้งใจของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ ที่ต้องการยกระดับ บีช เทนนิส จากกีฬาที่เล่นกันสนุกสนานในกลุ่มเพื่อนๆ ครอบครัว ในยามว่างระหว่างการไปพักผ่อนที่ริมหาด ขึ้นมาเป็น “กีฬาอาชีพ” ที่สร้างรายได้ และ ได้รับความนิยมไม่แพ้ “เทนนิส” กีฬาหวดลูกสักหลาดที่มีวิวัฒนาการการเล่นมากว่า 100 ปี และที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกให้กับเยาวชนในการเข้าถึงการเล่น “กีฬา” ที่หลากหลายชนิด ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ “เทนนิส” เท่านั้น ดังนั้น ไอทีเอฟ จึงต้องมีการพยายามจัดกิจกรรมการแข่งขัน บีช เทนนิส มากยิ่งขึ้น ขยายไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก มีเงินรางวัลในการแข่งขันให้นักกีฬาที่ลงแข่ง โดยเงินรางวัลของ บีช เทนนิส จะอยู่ระหว่าง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 120,000 บาท ถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 3,000,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการ “จัดอันดับ” ให้นักกีฬาเหมือนเช่นเทนนิส และด้วยความที่ยังเป็นกีฬาใหม่ ทำให้คู่แข่งยังไม่เยอะ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นมือใหม่ติดอันดับ 100 อันดับแรกของโลกได้ไม่ยาก

และปัจจุบันมีการแข่งขันบีช เทนนิส ให้ได้ทดสอบฝีมือและล่ารางวัลตลอดทั้งปี มีแข่งขันในทุกๆเดือน มากกว่า 300 รายการ โดยมีนักกีฬาเข้าแข่งขันมากกว่า 37 ประเทศ แม้ขณะนี้การแข่งขันส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มประเทศแถบยุโรป อเมริกา หรือ อเมริกาใต้ จะมีย้ายมาแข่งในโซนเอเชียบ้าง คือ ที่ประเทศญี่ปุ่น และปีนี้มีเพิ่มที่ สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์

รวมถึง จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ประเทศไทย ก็จะมีแผนที่จะจัดการแข่งขัน บีช เทนนิส ทั้งในประเทศ และ ชิงเงินรางวัลของไอทีเอฟ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเริ่มมีกลุ่มนักกีฬาที่เล่นกีฬานี้อย่างแพร่หลายมากขึ้น หากนักกีฬาไทยสามารถพัฒนาฝีมือได้ดี และ มีสปอนเซอร์มาร่วมสนับสนุน เชื่อว่าในแต่ละปีก็จะตระเวนแข่งขันไล่ล่าผลงาน เก็บคะแนนสะสมโลก และคว้าเงินรางวัลเป็นกอบเป็นกำได้เช่นกัน

ขณะที่ ไอทีเอฟ เองก็มีการเพิ่มช่องทางการแข่งขัน และ สร้างโอกาสให้นักกีฬาได้ยกระดับคุณภาพ และ ฝีมือการเล่นของตัวเองไปสู่การเป็นผู้เล่นระดับโลก ด้วยการจัดการแข่งขัน “ไอทีเอฟ บีช เทนนิส เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” และ “ไอทีเอฟ บีช เทนนิส เวิลด์ คัพ” ซึ่งทั้ง 2 รายการนี้ จะเป็นการแข่งขันระดับทีมชาติ เพิ่มช่องทางให้นักกีฬาได้มีโอกาสลงแข่งขันในนามทีมชาติ สร้างเกียรติประวัติและเกียรติยศให้แก่ตัวเอง และ ประเทศชาติ

อย่างการแข่งขัน “ไอทีเอฟ บีช เทนนิส เวิลด์ คัพ” ปีนี้มีการจัดรูปแบบการแข่งขัน โดยจะมีทีมแข่งขันรอบชิงแชมป์โลก ทั้งสิ้น 16 ทีม ซึ่งจะเป็นทีมที่คัดเลือกมาจากโซนต่างๆ แบ่งเป็น โซนแอฟริกา 2 ทีม, โซนเอเชีย 2 ทีม, โซนโอเชียเนีย 1 ทีม, โซนยุโรป 6 ทีม, โซนอเมริกาใต้ 2 ทีม, อเมริกาเหนือ 2 ทีม และ ไวล์การ์ด 1 ทีม ยังไม่รวมการแข่งขัน “กีฬาชายหาดโลก” หรือ ANOC World Beach Games ที่นักกีฬาไทยมีสิทธิ์ได้สวมเสื้อติดธงไตรรงค์ที่หน้าอกลงสนามแข่งขันในนามทีมชาติได้อีกด้วย

ขณะที่ในอนาคต ไอทีเอฟ ยังมีแผนที่จะผลักดันให้ บีช เทนนิส เข้าสู่มหกรรมกีฬาในกลุ่ม “กีฬาชายหาด” ตามภูมิภาคต่างๆของโลก เพื่อเพิ่มช่องทางการแข่งขัน ขยายฐานการเล่น และ สร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬาในการเล่นกีฬาชนิดนี้ ในส่วนของเยาวชน ไอทีเอฟ เองก็ได้มีการจัดโปรแกรมการแข่งขันไว้แล้วเช่นกัน ซึ่งได้มีการเพิ่มรายการแข่งขันมากขึ้นในทุกๆปีรองรับกับจำนวนนักกีฬาที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในโครงการพัฒนาบีช เทนนิส สู่ระดับโลกของ ไอทีเอฟ ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากสมาคมกีฬาเทนนิสฯ สมาชิกของไอทีเอฟ ทั้ง 6 ทวีป

จากการทำงานอย่างหนักของไอทีเอฟ และ แรงสนับสนุนที่ดีจากประเทศสมาชิกนี้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า บีช เทนนิส จะถูกยกระดับให้เป็นกีฬาชายหาดอาชีพที่สร้างรายได้หลักแก่ผู้เล่นเป็นกอบเป็นกำได้ไม่ยาก

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ บีช เทนนิส เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่น่าเล่นอย่างจริงจัง ส่วนคนไทยจะเหมาะกับการเล่นกีฬาบีช เทนนิส และสามารถพัฒนาไปสู่ระดับโลกกันได้หรือไม่ โปรดติดตามต่อในสัปดาห์หน้า….