เปิดวิธีแก้สมการเทนนิสของ ปรัชญา อิสโรที่มาของตำแหน่ง “แชมป์”

Written by LTAT Admin

เปิดวิธีแก้สมการเทนนิสของ ปรัชญา
อิสโรที่มาของตำแหน่ง “แชมป์”

คอลัมน์ : คุยนอกคอร์ต

เปิดวิธีแก้สมการเทนนิสของ ปรัชญา
อิสโรที่มาของตำแหน่ง “แชมป์”

ย้อนไปช่วง 7-8 ปีก่อน มีนักเทนนิสหนุ่มวัย 17 ปี ที่น่าจับตา เขาคือ “ณัฐ” ปรัชญา อิสโร หนุ่มน้อยจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่สามารถแจ้งเกิดบนเวทีอาชีพได้อย่างยอดเยี่ยม

ตอนนั้น ปรัชญา เริ่มต้นจากการไม่มีอันดับโลก และใช้ไวลด์การ์ดหรือสิทธิพิเศษเข้าร่วมการแข่งขันในรอบเมนดรอว์ ศึกเทนนิสอาชีพ “ช้าง ไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต 2013” สัปดาห์แรก ที่สนามเทนนิส รร.รามาการ์เด้นส์ แต่สามารถพาตัวเองเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว ได้แบบพลิกความคาดหมาย และรายการเดียวกันในสัปดาห์ที่สาม ปรัชญาสร้างผลงานที่ดีได้อีกครั้งด้วยการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ

“ผมเทิร์นโปรตอนอายุ 17 ปี ได้แต้มครั้งแรกตอนแข่งที่รามาการ์เด้นส์ แข่ง 3 สัปดาห์ ได้มา 16 แต้ม เริ่มมีอันดับโลกอยู่ที่ 800 กว่าของโลก จากนั้นไปเล่นต่อที่สนามปิรามิดอีก 3 สัปดาห์ ได้มาอีก 18 แต้มหลังจากเข้ารอบรองชนะเลิศทั้ง 3 สัปดาห์ ทำให้อันดับโลกขยับขึ้นไปอีก เล่นต่อไปไม่กี่ปี สุดท้ายก็ต้องหยุดแข่ง เหตุผลหลักๆ เลยเพราะไม่มีสปอนเซอร์ ทำให้แข่งได้แต่รายการในเมืองไทย พอเข้าเรียนที่จุฬาฯ ก็เรียนหนัก เลยตัดสินใจหยุดแข่ง ทำให้อันดับโลกตกลง” ปรัชญา ย้อนวันวานให้ฟัง

ปรัชญาติดทีมชาติชุดใหญ่ สู้ศึกเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย “เดวิส คัพ” โซนเอเชีย/โอเชียเนีย หลายสมัย โดยครั้งแรกติดปี ค.ศ.2013 ช่วงแรกๆ ปรัชญาเล่นทั้งประเภทเดี่ยวและคู่ ซึ่งคู่กับ “แมน” ณัฐนนท์ กัจฉปานันท์ ในฐานะสองดาวรุ่งเลือดใหม่ของไทยในขณะนั้น นอกจากนี้ปรัชญายังติดทีมชาติชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 “อินชอนเกมส์ 2014” ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้

เราคงปฏิเสธได้ยากว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักเทนนิสในการใช้เป็นทุนเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศ เพื่อขยับอันดับโลกด้วยการสะสมคะแนนจากรายการต่างๆ แม้แมทช์ในบ้านเราก็มีให้แข่งแต่ก็อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักเทนนิสที่อยากได้แต้มเยอะๆ ขณะเดียวกันเรื่องเรียนก็สำคัญ เพราะแต่ละคนอาจคาดเดาอนาคตข้างหน้าไม่ได้ การมีใบปริญญาไว้หางานทำจึงเป็นสิ่งจำเป็น และด้วยทุนที่มีจำกัด ทำให้ ปรัชญา ตัดสินใจเลือกให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนเป็นอันดับแรก

คนรักกีฬา ต่อให้เลิกเล่นไปนานแค่ไหน ก็ย่อมมีความโหยหา เช่นเดียวกับ ปรัชญา ที่รักกีฬาเทนนิสอยู่เต็มหัวใจ เมื่อเรียนจบจากรั้ว “จามจุรี” จึงได้กลับคืนสนามอย่างเต็มตัวอีกครั้งในปี 2020 ด้วยความกระหายอยากกลับมาเล่น อยากซ้อมอยากแข่ง เพราะทำแล้วมีความสุข

ช่วงแรกๆ ฟอร์มของปรัชญายังไม่เข้าที่ แต่พอปรับตัวได้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า มาจากความพยายามที่ต้องพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่อง “ร่างกายและจิตใจ” ที่ต้องแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการแข่งขัน ทำให้ ปรัชญา เริ่มทำได้ดีขึ้น จนได้แชมป์ประเภทเดี่ยวและคู่จากรายการอาชีพของสิงห์ ช่วงเดือน พ.ย.2020 เป็นการตอบแทน

“เมื่อฟอร์มดีขึ้น ความมั่นใจก็กลับมาทีละนิดๆ บางจังหวะที่เราไม่เคยตี ก็สามารถคิดต่อได้ว่าลูกแบบนี้ต่อไปต้องทำอย่างไร ตอนซ้อมไม่เคยมีความคิดเหล่านี้เพราะหยุดไปนาน แต่พอได้กลับมาแข่งขัน ผมสามารถคิดต่อเองได้เลยว่าจังหวะนี้ต้องแก้เกมอย่างไร ความคิดมันมาเองครับ” ปรัชญา กล่าว

หากยังจำกันได้ ช่วงปลายปีก่อน มีแมทช์อาชีพที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายการ “หัวหิน โอเพ่น 2020” โดย 2 สัปดาห์แรกเป็นรายการเก็บคะแนนสะสม ปรัชญา ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว ได้ทั้ง 2 สัปดาห์ ทว่า ไม่สามารถก้าวไปถึงแท่นแชมป์ได้สักหน จนกระทั่งสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งเป็นรอบมาสเตอร์ ปรัชญา สามารถแก้โจทย์การแข่งขัน ถอดสมการเทนนิสของตัวเอง ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง และสามารถปลดล็อกท่านรองได้สำเร็จ

“ตอนแข่งที่หัวหิน ทั้งฟอร์มการเล่นและความมั่นใจดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่ารอบเก็บคะแนน ได้รองแชมป์ชายเดี่ยว รองแชมป์ชายคู่ ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นแต่ท่านรอง รองอย่างเดียวเลย ไม่ได้การล่ะ ผมมีความคิดว่าผมต้องเป็นที่หนึ่งสิ ไม่อยากเป็นท่านรองแล้ว ต้องแชมป์อย่ารองแชมป์ เมื่อลงแข่งรอบมาสเตอร์ ผมบอกกับตัวเองอยู่ตลอดว่า เมื่อเราไม่อยากเป็นท่านรองแล้ว เราก็ต้องอดทนนะ ต้องมีความมั่นใจ ค่อยๆ แก้ไปทีละเกม และพยายามก้าวข้ามผ่านจุดที่ยากนี้ไปให้ได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ผมพบกับความสำเร็จ ผมได้แชมป์ทั้งชายเดี่ยวและชายคู่เลยครับ”

สิ่งที่ทำให้ ปรัชญา มีวันนี้ได้ นอกจากความพยายามของตัวเขาเองแล้ว ปรัชญาบอกด้วยว่ามาจากการเคารพและเชื่อฟังพ่อแม่ (นายสุนทร-นางเดือนเพ็ญ อิสโร) และก็ต้องขอบคุณสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่สนับสนุนงบประมาณในการฝึกซ้อม และยังมี “โค้ชแจ็ค” รุ่งฤทธิ์ ตาก้อง ผู้ฝึกสอนเทนนิสของสมาคมที่เข้ามาดูแลให้อย่างดี

“พ่อแม่บอกในสิ่งที่ดีกับลูกอยู่แล้ว พ่อกับแม่คอยบอกเรื่องที่ผมผิดพลาด ให้ปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น สุดท้ายผมก็ทำได้ ผมจะตั้งใจฝึกซ้อม จะไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้ อีกคนที่ผมจะลืมขอบคุณไม่ได้คือรุ่นพี่ที่ใจดี พี่เอิ้ต (วรวัสส์ วัสสานนท์) ที่คอยอยู่เคียงข้างผมตั้งแต่ก่อนจะเข้ารั้วจามจุรีจนจบ และยังสนับสนุนผมจนถึงปัจจุบันครับ” ปรัชญา กล่าว

ในฐานะนักหวดรุ่นพี่คนหนึ่งของวงการกีฬาลูกสักหลาด ปรัชญา ยังได้ฝากไปถึงน้องๆ เยาวชนว่า ขอให้มีความตั้งใจ มีความอดทน แล้วจะผ่านจุดที่ยากที่สุดของการเล่นเทนนิสไปได้ ขอเป็นกำลังให้น้องๆ ทุกคน แน่นอนว่า ทุกคนย่อมมีเป้าหมายในชีวิต เป้าหมายของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป สำหรับ ปรัชญา หนุ่มปักษ์ใต้คนนี้ อยากเป็นนักเทนนิสอาชีพเต็มตัว
“ในความคิดของผม ผมอยากทำลายสถิติเดิมที่ผมเคยมี อยากจะทำอันดับโลกให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งประเภทเดี่ยว และประเภทคู่ หรือทำลายสถิติของตัวเองลงให้ได้” นักหวดหนุ่มเผย

ขณะที่เหตุผลในการเล่นเทนนิสของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปเช่นกัน สำหรับ ปรัชญา เหตุผลของเขาคือ ความรักในกีฬาชนิดนี้ และจะใช้มันเป็นกีฬาที่สร้างอาชีพให้ตัวเอง สิ่งสำคัญไปกว่านั้น เขาต้องการทำให้ “เทนนิส” เป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียง สร้างความสุขให้กับตัวเอง ครอบครัว และคนไทย
“ผมไม่ได้มาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ผมจะมาเป็นที่หนึ่ง” ปรัชญา กล่าวทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่น เสมือนบอกเป็นนัยว่า หลังจากนี้เขาจะเต็มที่กับทุกแมทช์ เพื่อเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นแท่น “เบอร์ 1” เท่านั้น! #เทนนิส#กีฬาเทนนิส#สมาคมกีฬาลอนเทนนิส#Tennis#ไทยแลนด์#ทีมชาติ#ปรัชญาอิสโร#สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยปรัชญา อิสโร

ภาพ : อาพัฒน์ บุราณคุณ, เสกสรรค์ สืบสุนทร

LTAT