บีช เทนนิสไทย…เข้าสู่วัยตั้งไข่
บีช เทนนิสไทย…เข้าสู่วัยตั้งไข่
ว่าด้วยเรื่อง “บีช เทนนิส” หรือ “เทนนิส ชายหาด” ในสัปดาห์นี้ อย่างที่ทราบกันแล้วว่า ณ วันนี้ในโลกของกีฬาชายหาด “บีช เทนนิส” ได้ก้าวสู่ความเป็น”เบอร์1” ยึดกระแสความนิยมและเป็นที่สนใจอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกแล้ว
แต่สำหรับ บีช เทนนิส ในเมืองไทยนั้นยังอยู่ในช่วงของการ “ตั้งไข่” และใกล้ที่จะเริ่มมี “ก้าวแรก” ให้เห็นกันในเร็วๆนี้
หลังจากที่สมาคมกีฬาลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ได้วางแผนที่จะเข้ามาสนับสนุน ผลักดันให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักเทนนิสที่จะเข้ามาเล่นกีฬาชนิดนี้ เพื่อต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ และ ทีมชาติในอนาคต
เริ่มจากการเข้ามาวางระเบียบว่าด้วยเรื่องของ “บีช เทนนิส” ในส่วนของ “การแข่งขัน” มีการตั้งกฎ กติกา คุณสมบัตินักกีฬา และ ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันออกมาอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังได้ “รับรองผลการแข่งขัน” และมีการจัดทำ “อันดับ” ของนักกีฬาด้วยมาตรฐานเดียวกับระดับสากล ที่ว่า บีช เทนนิสไทย อยู่ในช่วงวัย “ตั้งไข่” นั้นเป็นเพราะเข้าสู่เมืองไทยให้ได้รู้จักกันเพียงแค่ 6 ปี โดยช่วง 2-3 ปีแรกก็แทบจะไม่มีคนรู้จัก หรือ มีคนเล่นไม่มากนัก
หลังผ่านช่วงวัยแบเบาะก็เข้าสู่ช่วงหัดคลาน ได้มีการรวมกลุ่มกันของ “คนเทนนิส” ที่ชอบความ “ท้าทาย” ใหม่ๆ จากกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆขยายฐานเป็น “กลุ่มใหญ่” มากขึ้น จนกระทั่งมีการผลักดันให้เกิดการแข่งขันรายการ “นานาชาติ” ขึ้นในเมืองไทย
การได้เห็นนักกีฬา บีช เทนนิส ระดับโลกมาโชว์ฟอร์มการเล่นให้เห็นกันชัดๆและได้เรียนรู้เกมการเล่นและสัมผัสประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง จึงทำให้ปัจจุบันนี้มีกลุ่มคนไทยที่จัดตั้ง “สปอร์ต คลับ” เฉพาะกีฬา บีช เทนนิสขึ้นกันหลายกลุ่ม โดยเฉพาะที่ พัทยา ณ วันนี้มีการรวมกลุ่มกันอย่างจริงจังถึง 3 กลุ่ม คือ Salea Beach Tennis Sport Club, 85 Academy และ ชมรมบีชเทนนิสเมือง พัทยา โดยการสนับสนุนของเมืองพัทยา
ส่วนในกรุงเทพก็ได้ผู้ที่หลงใหลใน บีช เทนนิส จนทุ่มทุนสร้างสนามเพื่อให้เป็นศูนย์รวมของคนที่รักและต้องการเรียนรู้ ฝึกฝนและเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง อย่าง “เอก”ปิยทัศน์ สุรเสวี ที่ปัจจุบันมีสนามบีช เทนนิส ที่ชื่อ” Shot Selections” นี่ยังไม่รวมนักกีฬาที่อยู่ตามเมืองหรือจังหวัดท่องเที่ยวทางทะเล ไม่ว่าจะเป็น ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธุ์ , ระยอง, เพชรบุรี และ ภูเก็ต เป็นต้น
การวางรากฐาน สร้างระบบ ระเบียบการแข่งขันที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกับระดับโลก รวมถึงการสนับสนุน ส่งเสริมให้มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ปัจจุบันนี้มีนักกีฬาบีช เทนนิสไทยมีชื่ออยู่ในทำเนียบการจัดอันดับคะแนนสะสม หรือ แร้งกิ้งประเทศไทยขึ้นภายใต้การรับรองของสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยกันในหลายรุ่นอายุ ทั้งชาย และ หญิง เริ่มจากรุ่นอายุ14 ปีไปจนถึงรุ่นทั่วไป โดยยึดฐานของคะแนนสะสม ไอทีเอฟแร้งกิ้งด้วย
ปัจจุบัน มือ 1 ประเทศไทยของ บีช เทนนิส ในรุ่นต่างๆมีดังนี้ เสกศักดิ์ ช่างหนอง ในรุ่นอายุ 14 ปีชาย, ทิวา วงษ์ย่างห่าง ในรุ่นอายุ 18 ปีชาย, เรอร์โน่ คาร์ซิแลคชายคู่, ประกายกานต์ สาวิสิทธิ์ ประเภทคู่ผสม, ไอริน ศรีไตรเฮือง รุ่นอายุ 14 ปีหญิง, โสภา จิตสุนทร จากประเภทหญิงคู่
ส่วนปีนี้ถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 คลี่คลาย ก็จะถึงเวลาที่บีช เทนนิส จะมีกิจกรรมการแข่งขันให้เหล่านักกีฬาได้ลงไล่ล่าหาประสบการณ์ และ พัฒนาศักยภาพ ฝีมือกันมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแรงให้บีช เทนนิสไทย ผ่านช่วงวัยตั้งไข่ไปสู่ “ก้าวแรก”ของการเป็นกีฬายอดฮิตที่ต่อยอดสู่อาชีพได้ และที่สำคัญด้วยภูมิประเทศของไทยนั้นค่อนข้างเหมาะที่จะเป็น “ศูนย์กลาง” กีฬาบีช เทนนิส ในเอเชีย เพราะมีทั้งชายหาด และ ท้องทะเลที่สวยงาม สามารถดึงดูดนักกีฬา บีช เทนนิส จากกลุ่มประเทศทางยุโรป สหรัฐฯ หรือ กลุ่มที่จะ “หนีหนาว” และเข้ามาใช้ช่วงเวลาฝึกซ้อมท่ามกลางแสงแดด ทะเล และ หาดทรายได้อย่างดี
อีกปัจจัยที่นอกจากจะกระตุ้น ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศแล้ว ยังหมายถึงโอกาสที่นักกีฬาไทยจะได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ จากนักกีฬาต่างชาติเหล่านี้ ขณะนี้มี กรุงโดฮา ประเทศการ์ต้า เป็นชาติแรกในเอเชียที่นำร่องในการสร้างฐานกีฬาบีช เทนนิส ในประเทศและพัฒนาสู่ความเป็น “ศูนย์กลาง” การฝึกซ้อมของเหล่านักเทนนิสในยุโรปที่ต้องการหนีหนาวมาฝึกซ้อมในประเทศที่มีแสงแดดและสภาพอากาศที่อบอุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมีจำนวนนักกีฬายุโรปมาฝึกซ้อมจำนวนมาก
แน่นอนว่า….ความสำเร็จจากการเล่นกีฬา บีช เทนนิส ก็ไม่ต่างจากกีฬาอื่นๆที่ต้องอาศัย “เวลา” ในการฝึกฝน ฝึกซ้อม เรียนรู้ประสบการณ์จากการแข่งขัน เพื่อต่อยอดไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่หวังไว้
ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม สำหรับ บีช เทนนิส กีฬาที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และ อยากให้ลองสัมผัสกันสักครั้ง….แล้วจะติดใจ